เลขที่ ฆสพ./สบส 1536/2568

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ? ตอบทุกคำถามที่สงสัย

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ระยะเวลาของการฉีดฟิลเลอร์มีระยะเวลาเท่าไหร่

หัวข้อ

ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการด้านความงามที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์แต่ละประเภทมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับ ชนิดของฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด การดูแลหลังทำ และพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ในบทความนี้ หมอจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการคงอยู่ และวิธีดูแลตัวเองเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยครับ

How long do fillers last?

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน อยู่ได้ถึงกี่เดือน ?

การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีเสริมความงามที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและไม่ต้องพักฟื้น อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์อยู่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และปัจจัยส่วนบุคคล โดยทั่วไปฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นประเภทที่นิยมใช้มากที่สุด สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของโมเลกุล เช่น

  • ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ริมฝีปาก อยู่ได้ 6-12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เช่น ฟิลเลอร์ขมับ คาง อยู่ได้ 12-24 เดือน

นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การออกกำลังกายหนัก, การสูบบุหรี่ หรือการสัมผัสความร้อนสูง อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าปกติ ดังนั้น ควรดูแลผิวให้ชุ่มชื้นและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นครับ

ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานกี่เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา โดยทั่วไปอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้, การดูแลหลังฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้บริเวณใต้ตาควรเป็น เนื้อละเอียดและอุ้มน้ำได้ดี ซึ่งช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดความหมองคล้ำ และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ แต่ก็จะมีปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาสลายเร็วขึ้น ได้แก่ การใช้ชีวิตที่เผชิญความร้อนสูง หรือการขยี้ตาบ่อย

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานกี่เดือน

ฟิลเลอร์ปาก โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้, การดูแลหลังฉีด และพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับริมฝีปากควรมี เนื้อนิ่ม ยืดหยุ่นสูง และกระจายตัวได้ดี เนื่องจากริมฝีปากเป็นบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น การพูดหรือรับประทานอาหาร ฟิลเลอร์อาจสลายเร็วขึ้น

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปาก

ฟิลเลอร์คาง อยู่ได้นานกี่เดือน

ระยะเวลาของฟิลเลอร์คางขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และกระบวนการสลายของร่างกายโดยทั่วไป ฟิลเลอร์คางที่เป็น Hyaluronic Acid (HA) สามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีความคงตัวสูงและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ พฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น การเคี้ยวอาหาร การพูด หรือการสัมผัสคางบ่อยๆ อาจมีผลต่ออายุของฟิลเลอร์ได้

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์คาง

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นานกี่เดือน

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และปัจจัยส่วนบุคคล ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับบริเวณร่องแก้ม เพราะสามารถเติมเต็มร่องลึกได้อย่างเรียบเนียนและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติแต่อย่างไรก็ตาม อายุของฟิลเลอร์อาจแตกต่างไปตามพฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น การเคลื่อนไหวของใบหน้า การสัมผัส หรือกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 

ฟิลเลอร์ขมับ อยู่ได้นานกี่เดือน

ฟิลเลอร์ขมับ สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และปัจจัยของแต่ละบุคคล ฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นและคงตัวสูง เหมาะสำหรับขมับ เพราะช่วยเติมเต็มบริเวณที่ยุบตัวและเสริมมิติของใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยอายุของฟิลเลอร์อาจได้รับผลกระทบจาก อัตราการเผาผลาญของร่างกาย การดูแลหลังฉีด และกิจวัตรประจำวัน

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ขมับ

ฟิลเลอร์หน้าผาก อยู่ได้นานกี่เดือน

ฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และปัจจัยเฉพาะบุคคล เช่น การเผาผลาญของร่างกายและพฤติกรรมหลังฉีด ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับหน้าผากมักเป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง ซึ่งช่วยปรับรูปหน้าผากให้โค้งมน ดูละมุน และลดริ้วรอย

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์หน้าผาก

ฟิลเลอร์แก้มส้ม อยู่ได้นานกี่เดือน 

ฟิลเลอร์แก้มส้ม สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลหลังฉีด โดยฟิลเลอร์ที่ใช้มักเป็นชนิดที่มีความคงตัวสูงและช่วยพยุงโครงสร้างผิว ซึ่งช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟู มีมิติ และยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์แก้มส้ม

เปรียบเทียบฟิลเลอร์แต่ละชนิดอยู่ได้นานแค่ไหน ?

ฟิลเลอร์แต่ละชนิดมีความคงตัวและระยะเวลาการสลายแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างโมเลกุลและตำแหน่งที่ฉีด บางชนิดอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ในขณะที่บางรุ่นสามารถคงอยู่ได้นาน ถึง 24 เดือน หมอจะพาทุกคนมาดูว่าฟิลเลอร์แต่ละชนิดนั้นอยู่ได้นานแค่ไหน มาดูกันเลย

Hyaluronic Acid Fillers 

ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) มีระยะเวลาคงตัวเฉลี่ย 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับความหนืด (viscosity) และเทคโนโลยีการผลิต ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลหนาแน่นสูง เช่น Juvederm Voluma หรือ Restylane Lyft จะอยู่ได้นานขึ้นเนื่องจากโครงสร้างช่วยชะลอการสลายตามธรรมชาติ โดยเอนไซม์ Hyaluronidase ในร่างกายจะค่อยๆ ย่อยสลาย HA ทำให้ฟิลเลอร์ลดลงตามเวลา การดูแลที่ดีช่วยยืดอายุผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้นครับ

Calcium Hydroxylapatite Fillers

ฟิลเลอร์ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) เช่น Radiesse สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและการเผาผลาญของร่างกาย ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีโครงสร้างเป็นอนุภาคแคลเซียมขนาดเล็กในเจล ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง คอลลาเจนตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไป เจลจะสลายไปก่อน แต่อนุภาคแคลเซียมยังคงช่วยพยุงผิวและกระตุ้นการฟื้นฟู ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานขึ้นครับ

Poly-L-Lactic Acid Fillers

ฟิลเลอร์ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) เช่น Sculptra สามารถอยู่ได้นาน 2-3 ปี เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนตามธรรมชาติ ในชั้นผิว ไม่ใช่เพียงแค่เติมเต็มทันทีเหมือน Hyaluronic Acid ฟิลเลอร์ชนิดนี้ทำงานโดยการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นานขึ้น แม้ตัวสาร PLLA จะสลายไปในไม่กี่เดือน แต่ผลของการสร้างคอลลาเจนยังคงอยู่ได้ยาวนานครับ

Polymethylmethacrylate (PMMA) Fillers

ฟิลเลอร์ชนิด Polymethylmethacrylate (PMMA) เช่น Bellafill เป็นฟิลเลอร์กึ่งถาวรที่สามารถอยู่ได้นานกว่า 5 ปี หรือมากกว่านั้น โครงสร้างของ PMMA ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับในชั้นผิว ช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนตามธรรมชาติ อย่างถาวร ทำให้ผลลัพธ์มีความคงตัวและยาวนานกว่าฟิลเลอร์ประเภทอื่น แต่อย่างไรก็ตามควรได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง เนื่องจากไม่สามารถฉีดสลายได้ครับ

เทคนิคการฉีดช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นจริงไหม ?

เทคนิคการฉีดมีผลอย่างมากต่อระยะเวลาการคงตัวของฟิลเลอร์ หากฉีดถูกชั้นผิวและใช้ปริมาณที่เหมาะสม ฟิลเลอร์จะกระจายตัวดีและยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น

ปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น ได้แก่

  • ชั้นผิวที่ฉีด ฟิลเลอร์ที่ฉีดในชั้นลึก เช่น กระดูกหรือใต้กล้ามเนื้อ จะอยู่ได้นานกว่าฉีดในชั้นตื้น
  • เทคนิคการฉีด การใช้เทคนิค Linear Threading หรือ Fanning ทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวสม่ำเสมอ ลดการสลายตัวเร็ว
  • การเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสม ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เช่น Juvederm Voluma หรือ Restylane Lyft จะอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม
  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์ แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์โครงหน้าและฉีดฟิลเลอร์ให้เข้ากับโครงสร้างของแต่ละบุคคลได้ดี

ดังนั้น เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องมีผลต่อ การกระจายตัวของฟิลเลอร์ และ อายุการใช้งาน ทำให้เทคนิคการฉีดนั้นมีผลที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นจริงครับ

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์มีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของฟิลเลอร์ หากปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องจะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ การดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตรช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูและคงตัวได้นานขึ้น
  2. หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะใน 48 ชั่วโมงแรก เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่คงตัว หากได้รับแรงกดอาจทำให้เกิดการกระจายตัวผิดตำแหน่ง
  3. งดออกกำลังกายหนัก เพราะว่าการออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว เช่น วิ่งหรือเวทเทรนนิ่ง อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  4. เลี่ยงความร้อนและแสงแดดจัด ซาวน่า อบไอน้ำ และแสงแดดร้อนจัด อาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ปกป้องผิว
  5. งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ เพราะแอลกอฮอล์และนิโคตินทำให้เส้นเลือดหดตัว ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

ข้อควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์

  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ RF (Radio Frequency), HIFU, Ulthera ใน 2 สัปดาห์แรก เนื่องจากคลื่นพลังงานอาจกระตุ้นให้ฟิลเลอร์เสื่อมเร็วขึ้น
  • งดนอนคว่ำหรือนอนตะแคงในช่วง 3-7 วันแรก เพื่อลดการกดทับบริเวณที่ฉีด
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดที่ทำให้ร่างกายบวมน้ำและอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์

สัญญาณที่บ่งบอกว่าฟิลเลอร์เริ่มสลาย

ฟิลเลอร์โดยเฉพาะชนิด Hyaluronic Acid (HA) จะค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งอายุการใช้งานโดยทั่วไปอยู่ที่ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ พื้นที่ฉีด และการดูแลหลังฉีด สัญญาณที่บ่งบอกว่าฟิลเลอร์เริ่มสลาย มีดังนี้

  1. วอลลุ่มลดลง ใบหน้ากลับไปสู่สภาพเดิม เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย บริเวณที่เคยอิ่มฟู เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือริมฝีปาก จะค่อยๆ คืนสู่สภาพเดิม ใบหน้าอาจดูมีริ้วรอยหรือขาดมิติขึ้น
  2. ความยืดหยุ่นของผิวลดลง เพราะว่าฟิลเลอร์ช่วยพยุงโครงสร้างผิวและเติมเต็มช่องว่าง เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย ผิวอาจสูญเสียความตึงกระชับ และมีร่องลึกมากขึ้น
  3. ร่องลึกกลับมาเด่นชัดขึ้น สำหรับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดร่องแก้ม ร่องใต้ตา หรือขมับ หากฟิลเลอร์เริ่มสลาย ร่องเหล่านี้จะกลับมาเด่นชัดขึ้น
  4. ผิวบริเวณที่ฉีดดูแห้งและขาดน้ำมากขึ้น เพราะว่า Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติดูดซับน้ำ เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย ผิวอาจดูแห้งขึ้นและสูญเสียความชุ่มชื้น

หากสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้และต้องการคงผลลัพธ์ไว้อย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มเพิ่มเติมครับ

ข้อดีและข้อเสียของฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นาน

ฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นานมักเป็นที่ต้องการของหลายๆ คนเนื่องจากช่วยลดความถี่ในการเติมฟิลเลอร์และคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์ประเภทนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีด

ข้อดีของฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นาน

  • ลดความถี่ในการฉีด เพราะว่าฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นานช่วยให้ไม่ต้องเติมบ่อย ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและลดการสัมผัสผิวจากเข็มซ้ำๆ
  • ให้ผลลัพธ์ที่มั่นคง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปรับโครงหน้าหรือเติมเต็มริ้วรอยแบบถาวร โดยไม่ต้องกังวลว่าฟิลเลอร์จะสลายเร็วเกินไป
  • มีความคงตัวสูง ฟิลเลอร์ชนิดที่อยู่ได้นานมักมีโครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแรงและคงตัวดี ทำให้สามารถพยุงผิวและเติมเต็มร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสียของฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นาน

  • หากเกิดปัญหา อาจแก้ไขได้ยาก ฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นาน เช่น PMMA หรือ Calcium Hydroxylapatite ไม่สามารถฉีดสลายได้เหมือน Hyaluronic Acid ทำให้หากมีผลข้างเคียงต้องใช้วิธีผ่าตัดแก้ไข
  • ความยืดหยุ่นอาจน้อยกว่า ฟิลเลอร์ที่มีอายุการใช้งานนานมักมีความแข็งตัวสูง อาจไม่เหมาะกับบริเวณที่ต้องการการเคลื่อนไหวมาก เช่น ริมฝีปาก หรือใต้ตา
  • อาจเกิดการจับตัวเป็นก้อนเมื่อเวลาผ่านไป ในบางกรณี ฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นานอาจมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสัมผัส หรือจับตัวเป็นก้อนหากฉีดผิดชั้นผิว

สำหรับท่านใดที่มีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ทีมแพทย์จาก To Beloved Clinic พร้อมให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านทาง Inbox Facebook หรือ Line Official : @TBLCLINIC ทางคลินิกได้โดยตรง ซึ่งคุณหมอประจำ TBL Clinic จะเป็นผู้ให้คำตอบด้วยตนเองครับ