หลายคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบ แต่งหน้าไม่ติด อาจเคยได้ยินคำว่า “โบท็อกกระชับรูขุมขน” แล้วสงสัยว่า วิธีนี้ช่วยได้จริงไหม? ต่างจากการฉีดลดริ้วรอยอย่างไร? และเหมาะกับใครบ้าง? ในบทความนี้ หมอจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าโบท็อกช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนได้อย่างไร กลไกการทำงานอยู่ตรงไหน ต้องฉีดบริเวณใด ใช้กี่ยูนิต เห็นผลเมื่อไหร่ และปลอดภัยหรือไม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่อยากมีผิวหน้าเนียนใสแบบไม่ต้องแต่งเยอะครับ
โบท็อกกระชับรูขุมขน คืออะไร ?
โบท็อกซ์ไม่ได้มีดีแค่ลดริ้วรอยครับ แต่ยังสามารถช่วยให้ผิวหน้าเนียนใสขึ้นได้ด้วยวิธีที่เรียกว่า “โบท็อกกระชับรูขุมขน” ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ Botulinum Toxin Type A ฉีดเข้าไปยังชั้นกล้ามเนื้อและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่รูขุมขนกว้าง เช่น หน้าผาก จมูก หรือข้างแก้ม กลไกของโบท็อกจะช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้การผลิตน้ำมันลดลง ส่งผลให้รูขุมขนหดแคบลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น เห็นผลชัดเจนโดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน หรือเป็นสิวจากน้ำมันส่วนเกิน
รูขุมขนกว้าง เกิดจากสาเหตุอะไร ? มีผลอย่างไรบ้าง ?
รูขุมขนกว้างเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวมันหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้น ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้รูขุมขนดูกว้าง มีหลายปัจจัยครับ เช่น พันธุกรรม การผลิตน้ำมันส่วนเกินจากต่อมไขมัน การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แสงแดด และ อายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและรูขุมขนดูขยายใหญ่ขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ การล้างหน้าไม่สะอาดหรือการแต่งหน้าหนาเกินไปก็สามารถอุดตันรูขุมขน ทำให้ผิวดูไม่เรียบและเกิดสิวตามมาได้ง่ายขึ้นด้วยครับ ผลกระทบที่ตามมาคือ ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน แต่งหน้าติดยาก เกิดสิวซ้ำซาก และทำให้ผิวดูโทรม ไม่สดใส การดูแลรูขุมขนให้กระชับจึงเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการมีผิวสุขภาพดี ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการปรับพฤติกรรม และหัตถการเสริม เช่น การฉีดโบท็อกหรือทรีตเมนต์เฉพาะทางครับ
โบท็อก ทำงานอย่างไรในการลดขนาดรูขุมขน
หลายคนอาจคุ้นเคยกับโบท็อกในแง่ของการลดริ้วรอย แต่จริง ๆ แล้ว โบท็อกยังสามารถช่วยกระชับรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ โดยกลไกการทำงานของ Botulinum Toxin A เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวในปริมาณต่ำ จะช่วยยับยั้งการทำงานของ กล้ามเนื้อบางมัดเล็ก และ ต่อมไขมันที่อยู่บริเวณผิวหนังชั้นตื้น เมื่อการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันลดลง ผิวหน้าจึงไม่มันเยิ้ม รูขุมขนที่เคยกว้างเพราะน้ำมันสะสมจึงค่อยๆ หดแคบลงอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยควบคุมการหดเกร็งของกล้ามเนื้อใต้ผิวที่มีผลต่อขนาดของรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดในผู้ที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้างจากต่อมไขมันทำงานมากเกินไป และต้องการดูแลอย่างตรงจุดโดยไม่ต้องลงเข็มลึกหรือพักฟื้นยาวครับ
ทำไมโบท็อกจึงช่วยเรื่องรูขุมขนกว้าง
หลายคนอาจแปลกใจว่าโบท็อกที่ใช้ลดริ้วรอยนั้น จะช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้อย่างไร จริง ๆ แล้วโบท็อกมีคุณสมบัติช่วย “ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน” และ “ลดการบีบรัดของกล้ามเนื้อผิวตื้น” ที่ส่งผลต่อการเปิดของรูขุมขนโดยตรงครับ เมื่อฉีดโบท็อกในปริมาณที่เหมาะสมเข้าสู่ผิวหนังชั้นตื้น มันจะช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ทำให้ผิวหน้ามันน้อยลง และรูขุมขนที่เคยขยายจากความมันก็หดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวเรียบ ละเอียดขึ้น รูขุมขนดูเล็กลงโดยไม่ต้องใช้เลเซอร์หรือวิธีรุกรานผิวครับ
โบท็อกซ์สำหรับกระชับรูขุมขนต่างจาก โบท็อกลดริ้วรอยอย่างไร ?
แม้จะใช้ตัวยาเดียวกันคือ Botulinum Toxin Type A แต่จุดประสงค์และเทคนิคการฉีดของโบท็อกกระชับรูขุมขน กับโบท็อกลดริ้วรอยนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ โบท็อกลดริ้วรอย จะฉีดลึกลงไปยังกล้ามเนื้อเฉพาะจุด เช่น หน้าผาก หว่างคิ้ว หรือหางตา เพื่อยับยั้งการหดเกร็งของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยพับบนผิวหนัง ทำให้ริ้วรอยดูตื้นและเรียบขึ้น
ในขณะที่ โบท็อกกระชับรูขุมขน จะใช้เทคนิค Micro Botox โดยฉีดตื้นมากในชั้นผิวหนังบริเวณที่มีปัญหารูขุมขนกว้างหรือผิวหน้ามัน เช่น แก้มและ T-zone เพื่อควบคุมการทำงานของต่อมไขมันและกระตุ้นผิวให้แน่นขึ้น สรุปง่ายๆ เลยก็คือแม้ใช้ตัวยาเดียวกัน แต่โบท็อกซ์สำหรับผิวเรียบเนียนจะเน้นฉีดตื้น กระจายทั่วหน้า ส่วนลดริ้วรอยจะเน้นเฉพาะจุดลึกครับ
ฉีดฟิลเลอร์ แล้วสามารถฉีดโบท็อกรูขุมขนได้ไหม ?
หลายคนที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว อาจสงสัยว่า “สามารถฉีดโบท็อกเพื่อกระชับรูขุมขนได้หรือไม่?” คำตอบคือ สามารถทำได้ครับ แต่มีข้อควรพิจารณาเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลลัพธ์ โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ จะถูกฉีดลึกลงในชั้นผิวเพื่อเติมเต็มร่องหรือเพิ่มวอลุ่ม ส่วน โบท็อกสำหรับกระชับรูขุมขน จะใช้เทคนิค Micro Botox ฉีดตื้นบริเวณผิวหน้าในระดับที่ไม่ลึกถึงชั้นฟิลเลอร์ จึง ไม่ส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม ควรให้แพทย์ประเมินตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์มาก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกในบริเวณเดียวกันแบบซ้อนทับ และหากเพิ่งฉีดฟิลเลอร์ ควรรออย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนฉีดโบท็อกเพื่อให้ผิวหน้ามีพักและเตรียมพร้อมกับการฉีดโบท็อกซ์ได้ครับ
เมโสแฟต กับโบท็อกรูขุมขน ทำร่วมกันได้ไหม ?
คำถามที่หมอมักได้ยินบ่อยคือ “เมโสแฟตกับโบท็อกสำหรับกระชับรูขุมขน ทำพร้อมกันได้หรือไม่?” คำตอบคือ สามารถทำร่วมกันได้ครับ แต่อยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์และควรทำอย่างถูกวิธี เมโสแฟต เป็นการฉีดสารเพื่อสลายไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้ม หรือเหนียง ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวลง ส่วน โบท็อกกระชับรูขุมขน จะฉีดในระดับตื้น เพื่อควบคุมต่อมไขมันและช่วยให้ผิวหน้าเนียนเรียบ แม้จะทำงานคนละระดับผิว แต่หากต้องการทำในวันเดียวกัน ควรมีการวางแผนตำแหน่งการฉีดอย่างระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการฉีดซ้อนทับกันในจุดเดียวกัน
ใครที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขน ?
การฉีดโบท็อกเพื่อลดขนาดรูขุมขนไม่ใช่หัตถการสำหรับทุกคนครับ แต่จะเหมาะกับผู้ที่มีลักษณะผิวและปัญหาเฉพาะทางบางกลุ่ม โดยหมอขอแนะนำว่าใครบ้างที่เหมาะกับวิธีนี้ที่สุด ดังนี้ครับ
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้างจากความมันส่วนเกิน โดยเฉพาะในบริเวณทีโซน หรือโหนกแก้ม ซึ่งเกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไปจนทำให้รูขุมขนขยายตัว
- ผู้ที่มีผิวหน้ามันและเป็นสิวง่าย โบท็อกสามารถช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวแห้งลงเล็กน้อย และลดปัญหาสิวอุดตัน
- ผู้ที่ต้องการผิวเรียบเนียนแต่งหน้าง่าย สำหรับคนที่แต่งหน้าแล้วรองพื้นไม่ติดผิว หรือผิวไม่เรียบ การกระชับรูขุมขนจะช่วยให้ผิวดูละเอียดขึ้น
- ผู้ที่มีสภาพผิวแข็งแรง และไม่แพ้ง่าย เพราะถึงแม้โบท็อกจะปลอดภัย แต่ก็ต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ปัญหาผิวแบบไหนที่โบท็อกสามารถช่วยได้
หลายคนอาจรู้จักโบท็อกในแง่ของการลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้า แต่จริง ๆ แล้วโบท็อกสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้หลายรูปแบบครับ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีปัญหาผิวจากพฤติกรรมหรือการเสื่อมสภาพของผิวตามวัย ซึ่งได้แก่
- รูขุมขนกว้างและผิวมัน โบท็อกช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวหน้าดูละเอียดขึ้น เหมาะกับคนที่มีผิวมันมากหรือลงรองพื้นไม่ติด
- ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา หรือร่องระหว่างคิ้ว ซึ่งโบท็อกช่วยคลายกล้ามเนื้อให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องการยกกระชับกรอบหน้าให้ดูชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผิวไม่สม่ำเสมอจากกล้ามเนื้อไม่สมดุล เช่น มุมปากตก คิ้วไม่เท่ากัน หรือคางสั้น โบท็อกสามารถปรับบาลานซ์กล้ามเนื้อเพื่อให้รูปหน้าดูละมุนมากขึ้น
ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดโบท็อกรูขุมขน
การฉีดโบท็อกเพื่อกระชับรูขุมขน ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง หรือแต่งหน้าไม่ติด แต่ก่อนตัดสินใจทำ ควรรู้ข้อดีและข้อจำกัดของหัตถการนี้อย่างชัดเจนครับ
ข้อดีของการฉีดโบท็อกรูขุมขน
- ช่วยกระชับรูขุมขนได้จริง โดยเฉพาะในคนที่มีผิวมันหรือต่อมไขมันทำงานมาก
- ผิวดูละเอียดและเรียบเนียนขึ้น เหมาะกับคนที่แต่งหน้าแล้วไม่ติด หรือผิวดูไม่เรียบ
- ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
- ช่วยลดความมันบนใบหน้า ทำให้ปัญหาสิวจากน้ำมันส่วนเกินลดลง
ข้อเสียหรือข้อจำกัดที่ควรพิจารณา
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร อยู่ได้ประมาณ 3–5 เดือน ต้องฉีดซ้ำหากต้องการผลต่อเนื่อง
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางมากหรือแพ้ง่าย อาจเกิดรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยในบางราย
- ต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญของแพทย์ หากฉีดลึกหรือผิดตำแหน่ง อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวตึงผิดธรรมชาติ
ฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขนกี่วันเห็นผล? ใช้กี่ยูนิต
การฉีดโบท็อกเพื่อกระชับรูขุมขน เป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีในกลุ่มคนที่มีรูขุมขนกว้างจากต่อมไขมันทำงานมาก โดยทั่วไปแล้ว หลังฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มเห็นผลภายใน 5–7 วัน และจะชัดเจนที่สุดในช่วง ประมาณ 14 วัน หลังทำครับ สำหรับปริมาณที่ใช้ในการฉีดเพื่อกระชับรูขุมขน จะขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพผิวของแต่ละบุคคล
โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้ ประมาณ 20–50 ยูนิต ในบริเวณ T-zone หรือทั่วใบหน้า โดยต้องเป็นเทคนิคฉีดตื้นระดับผิว (Micro Injection) เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ที่ต่อมไขมันได้ตรงจุด เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ ควรทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพราะตำแหน่งและความลึกของการฉีดมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพและความเรียบเนียนของผิวครับ
ฉีดโบท็อกรูขุมขน อยู่ได้นานไหม ? อยู่ได้กี่เดือน ?
การฉีดโบท็อกเพื่อลดขนาดรูขุมขนและควบคุมความมันบนใบหน้า เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและเห็นได้เร็ว โดยทั่วไปแล้ว ผลของการฉีดจะอยู่ได้นาน ประมาณ 3–4 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ใช้, ปริมาณยูนิต, สภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงพฤติกรรมหลังการรักษา เช่น การดูแลผิวและการสัมผัสแสงแดด
หากต้องการคงผลลัพธ์ให้รูขุมขนกระชับอยู่เสมอ แนะนำให้เว้นช่วงฉีดทุก 3–4 เดือน และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อควบคุมปริมาณและตำแหน่งการฉีดให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลครับ โบท็อกไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างผิวถาวร แต่สามารถช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ หากได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมครับ
ฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขนใช้ยี่ห้ออะไรดี?
ในการฉีดโบท็อกเพื่อลดขนาดรูขุมขน สิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าฝีมือของแพทย์ก็คือ การเลือกใช้โบท็อกยี่ห้อที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการฉีด โดยเฉพาะบริเวณผิวหน้า ซึ่งเป็นจุดที่ต้องการความละเอียดและกระจายตัวของตัวยาอย่างแม่นยำ เราจึงแนะนำให้ใช้โบท็อกแท้จากยี่ห้อที่ได้รับการรับรองและผ่าน อย. ไทยเท่านั้นครับ
3 ยี่ห้อโบท็อกยอดนิยมที่เหมาะกับการฉีดกระชับรูขุมขน ได้แก่
- Botox Allergan (USA) จุดเด่นคือกระจายตัวแคบ ควบคุมทิศทางแม่นยำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์นุ่มนวลและปลอดภัยสูง
- Xeomin (Germany) ไม่มีโปรตีนเจือปน ลดความเสี่ยงดื้อยา เหมาะกับผู้ที่เคยฉีดโบท็อกบ่อย
- Nabota (Korea) ราคาย่อมเยา ออกฤทธิ์เร็ว กระจายตัวดี เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการลดมันและรูขุมขนกว้าง
ฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขนอันตรายไหม?
การฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขนโดยทั่วไปถือว่า ปลอดภัย ครับหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเลือกใช้ โบท็อกแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. การฉีดจะใช้เทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า Micro Botox หรือ Meso Botox ซึ่งฉีดตื้นบริเวณผิว ไม่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ จึงไม่กระทบต่อการแสดงสีหน้าหรือการเคลื่อนไหว
อาการข้างเคียงที่อาจพบได้เล็กน้อย เช่น รอยแดง หรือรอยช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักหายได้ภายใน 1–3 วัน ไม่ต้องกังวลครับ หากเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ ปลอดภัย ผิวเนียนละเอียด และมั่นใจมากยิ่งขึ้นครับ
ข้อควรรู้ และการเตรียมตัว ก่อนฉีดโบท็อกรูขุมขน
ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกเพื่อลดรูขุมขน สิ่งที่คนไข้ควรรู้คือ การฉีดโบท็อกประเภทนี้จะใช้เทคนิค Micro Botox หรือ Meso Botox ซึ่งฉีดตัวยาในปริมาณน้อยมากลงผิวชั้นตื้น เพื่อให้ผิวกระชับ รูขุมขนดูเล็กลง และลดการทำงานของต่อมไขมัน ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ ผิวเรียบเนียนขึ้นโดยไม่แข็งตึงหรือผิดรูปหน้า
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกรูขุมขนมีดังนี้ครับ
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิด ที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา อย่างน้อย 3 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- ล้างหน้าให้สะอาด และไม่แต่งหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- หากมีประวัติแพ้ยา หรือโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
วิธีดูแลผิวหลังฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขน
หลังฉีดโบท็อกเพื่อกระชับรูขุมขน การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่ และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ผิวเนียน รูขุมขนเล็กลงตามที่คาดหวัง คุณหมอขอแนะนำแนวทางการดูแลหลังฉีด ดังนี้ครับ
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้า หรือจับบริเวณที่ฉีดอย่างรุนแรงใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันตัวยาเคลื่อนที่ไปตำแหน่งอื่น
- งดการออกกำลังกายหนัก และกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น ซาวน่า หรืออบไอน้ำ ประมาณ 1–2 วัน
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น และช่วยส่งเสริมการทำงานของโบท็อก
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง เช่น สครับ หรือกรดผลไม้ เป็นเวลาอย่างน้อย 3–5 วัน
- หมั่นทาครีมบำรุงที่เพิ่มความชุ่มชื้น และใช้ครีมกันแดดทุกวัน เพื่อปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายซ้ำ
โบท็อกกระชับรูขุมขน ราคาเท่าไหร่ ?
สำหรับใครที่สนใจฉีดโบท็อกเพื่อกระชับรูขุมขนและลดความมันบนใบหน้า ราคาโบท็อกจะขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ ปริมาณยูนิตที่ใช้ และมาตรฐานของคลินิก โดยเฉลี่ยมักใช้ประมาณ 20–40 ยูนิต ในการฉีดทั่วใบหน้า และนี่คือราคาประมาณการตามยี่ห้อที่ได้รับความนิยมครับ
Botox Allergan (USA)
- คุณภาพสูง โมเลกุลกระจายแคบ ผลลัพธ์แม่นยำ
- ราคาเริ่มต้น 8,000–12,000 บาท
Botox Nabota (Korea)
- ราคาเข้าถึงง่าย ออกฤทธิ์ไว เหมาะกับผู้เริ่มต้น
- ราคาเริ่มต้น 4,500–7,000 บาท
Botox Xeomin (Germany)
- ไม่มีโปรตีนเจือปน ลดโอกาสดื้อยา เหมาะสำหรับผู้ที่ฉีดต่อเนื่อง
- ราคาเริ่มต้น 6,000–9,000 บาท
Botox Aestox (Korea)
- รุ่นใหม่จากเกาหลี ความบริสุทธิ์สูง ใช้กระชับรูขุมขนได้ดี
- ราคาเริ่มต้น 4,000–6,500 บาท
ทำไมต้องเลือก TBL Clinic สำหรับการฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขน?
การฉีดโบท็อกเพื่อลดรูขุมขน ไม่ใช่แค่การฉีดลงผิวเฉยๆ แต่ต้องอาศัยความชำนาญในการประเมินระดับของต่อมไขมัน กล้ามเนื้อ และสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งที่ TBL Clinic เราใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ในทุกขั้นตอน
- ทีมแพทย์มีประสบการณ์ด้านผิวหนังและความงามโดยตรง
- ใช้เทคนิคการฉีดระดับตื้น (Microbotox) ที่แม่นยำและปลอดภัย
- วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุด
- ใช้โบท็อกแท้ 100% ผ่าน อย. และสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้
- ดูแลต่อเนื่องหลังฉีด พร้อมคำแนะนำในการดูแลผิวเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้นานขึ้น
หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่เชื่อถือได้ ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก TBL Clinic พร้อมดูแลคุณตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงผลลัพธ์ที่คุณพอใจครับ
จองคิวปรึกษาฟรีวันนี้! พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผ่าน LINE: @TBLClinic หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ทันทีครับ