ในชีวิตประจำวัน เราหลีกเลี่ยงมลภาวะ โลหะหนัก หรือสารเคมีตกค้างได้ยาก ไม่ว่าจะจากอาหาร อากาศ หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ สิ่งเหล่านี้สะสมในร่างกายเงียบๆ และส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ทั้งอ่อนล้าเรื้อรัง ภูมิคุ้มกันตก หรือผิวพรรณเสื่อมโทรม CHELATION คือทางเลือกของการฟื้นฟูร่างกายจากภายใน โดยการดริปสารที่ช่วยจับและขับโลหะหนักออกจากกระแสเลือดอย่างปลอดภัย ไม่ต้องพึ่งดีท็อกซ์หรือวิธีล้างตับแบบเดิมๆ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวิธีล้างพิษแบบลึก ที่ทำได้จริง เห็นผล และเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ครับ
CHELATION คืออะไร?
Chelation (คีเลชั่น) คือกระบวนการที่ใช้สารเฉพาะ เช่น EDTA (Ethylenediaminetetraacetic acid) หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าสารจับโลหะ ซึ่งมีคุณสมบัติในการดึงโลหะหนักหรือสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายให้ออกมาผ่านทางระบบขับถ่าย โดยเฉพาะทางปัสสาวะผ่านการทำงานของไต โลหะหนักที่พบได้บ่อย เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม หรืออลูมิเนียม มักสะสมในร่างกายจากอาหาร น้ำ เครื่องสำอาง หรือมลพิษในอากาศ การสะสมของสารเหล่านี้อาจส่งผลต่อระบบประสาท หัวใจ และภูมิคุ้มกัน CHELATION therapy จึงเป็นทางเลือกในการล้างสารพิษลึก สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบลงราก ไม่ใช่แค่ล้างลำไส้ แต่ฟื้นเซลล์จากภายในอย่างปลอดภัยและเห็นผลจริงครับ
กลไกการทำงานของ CHELATION เป็นอย่างไร?
CHELATION ทำงานโดยใช้สารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Chelating agent เช่น EDTA ซึ่งมีโครงสร้างสามารถ “จับ” กับโลหะหนักที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นตะกั่ว ปรอท หรือแคดเมียม เมื่อจับกันแล้วจะเกิดเป็นสารประกอบที่ละลายน้ำได้ และร่างกายจะขับออกทางไตผ่านปัสสาวะ
กระบวนการนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่ดี เพราะสารคีเลชั่นมีความจำเพาะต่อโลหะที่เป็นพิษ และไม่ทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุจำเป็นในระดับที่เป็นอันตรายหากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ พูดง่ายๆ คือเหมือนเป็นการ “ล้างพิษในระดับเลือด” โดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือใช้ยาที่กระทบต่อระบบตับและลำไส้โดยตรงครับ
ต่างจากการดีท็อกซ์ทั่วไปยังไง?
หลายคนอาจคุ้นกับการดีท็อกซ์แบบทั่วไป เช่น การล้างลำไส้หรือดื่มน้ำผักผลไม้ แต่ CHELATION เป็นอีกขั้นที่ลงลึกกว่า เพราะไม่ได้แค่ช่วยระบบย่อยอาหาร แต่เน้นไปที่การขจัดโลหะหนักและสารพิษที่สะสมอยู่ในเลือดโดยตรง วิธีนี้จะใช้สารเฉพาะที่สามารถจับกับโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม หรือสารพิษบางชนิด แล้วพาออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ จึงช่วยลดภาระของตับและไตได้จริง ไม่ใช่แค่การล้างแบบผิวเผิน จุดเด่นคือ ร่างกายไม่ต้องเร่งขับออกเองทั้งหมด แต่เป็นการช่วยให้ระบบภายในทำงานเบาลง ข้อดีนี้จึงเหมาะกับคนที่ร่างกายอ่อนล้าเรื้อรัง หรือมีความเสี่ยงสะสมโลหะหนักในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ CHELATION?
CHELATION ไม่ได้จำเป็นเฉพาะกับผู้ป่วยหรือผู้มีสารพิษในระดับรุนแรงเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วเหมาะกับคนยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมลภาวะและความเสี่ยงสารพิษในทุกวัน เช่น คนที่อยู่ในพื้นที่มีฝุ่น PM2.5 สูง สูดควันรถเป็นประจำ ทำงานกลางเมือง หรืออยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม อีกกลุ่มคือผู้ที่ทานอาหารแปรรูปบ่อย ๆ เช่น ไส้กรอก เบคอน หรือขนมที่ใส่สารกันเสีย ซึ่งมีโอกาสได้รับโลหะหนักสะสมโดยไม่รู้ตัว รวมถึงผู้ที่เคยมีประวัติอุดฟันด้วยสารอมัลกัม หรือมีโลหะในร่างกายจากปัจจัยอื่นๆ สำหรับบางคนที่มักมีอาการเรื้อรัง เช่น อ่อนเพลีย เบลอเรื้อรัง หรือภูมิแพ้บ่อย การขจัดสารโลหะหนักที่สะสมก็อาจช่วยให้ระบบภายในกลับมาทำงานได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
มีอาการแบบไหนที่บ่งบอกว่าอาจมีโลหะสะสมในร่างกาย?
การทำ CHELATION เหมาะสำหรับคนที่ร่างกายอาจมีการสะสมสารพิษหรือโลหะหนักโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกลุ่มต่อไปนี้ที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
- คนที่ต้องเจอกับฝุ่น PM2.5 หรือมลพิษในเมืองใหญ่ เช่น คนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ ทำงานกลางแจ้ง หรือใช้ชีวิตในเขตการจราจรหนาแน่นทุกวัน
- ผู้ที่สูดมลพิษจากสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เช่น อยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรมหรือหมู่บ้านที่มีการเผาขยะหรือพืชผลทางการเกษตร
- ผู้ที่รับประทานอาหารแปรรูปหรือของทอดบ่อย ๆ เช่น ไส้กรอก, เบคอน, ขนมขบเคี้ยว หรืออาหารที่ใส่สารกันเสียซ้ำ ๆ
- ผู้ที่มีการสะสมโลหะหนักจากการรักษาทางทันตกรรม เช่น ฟันอุดด้วยอมัลกัม หรือผู้เคยรับวัคซีนที่มีสารปรอท
- คนที่มีอาการล้าเรื้อรังแบบไม่ทราบสาเหตุ เช่น อ่อนเพลีย เบลอ หงุดหงิดง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเป็นภูมิแพ้บ่อย
กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเรื่องโลหะหนักในร่างกาย
โลหะหนักอย่างตะกั่ว ปรอท แคดเมียม หรือสารหนู อาจสะสมในร่างกายโดยไม่รู้ตัว หากคุณอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
- ผู้ที่อาศัยในเมืองใหญ่หรือเขตอุตสาหกรรม สารพิษจากควันรถและฝุ่น PM2.5 สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งจากการหายใจและผิวหนัง
- คนทำงานเกี่ยวกับสารเคมี เช่น ช่างพ่นสี ช่างเชื่อม โรงงานอุตสาหกรรม หรือผู้ที่สัมผัสโลหะบ่อยๆ
- ผู้ใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นประจำ โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ได้รับการรับรอง อาจมีโลหะหนักตกค้าง เช่น ปรอทในครีมหน้าขาว
- ผู้ที่มีฟันอุดอมัลกัมเก่า วัสดุประเภทนี้มีโอกาสปล่อยโลหะหนักสะสมในร่างกายเมื่อเวลาผ่านไป
เกร็ดความรู้ ฟันอุดอมัลกัม คือการอุดฟันด้วยวัสดุที่ทำจาก โลหะผสมหลายชนิด เช่น ปรอท (Mercury) ประมาณ 50% เงิน (Silver) ดีบุก (Tin) ทองแดง (Copper) และโลหะอื่น ๆ ในปริมาณเล็กน้อย วัสดุชนิดนี้เคยนิยมใช้มากในการอุดฟัน เพราะมีความแข็งแรง ทนทาน และราคาถูก แต่ปัจจุบัน เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับ “การสะสมของปรอท” ในร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ที่มีอมัลกัมเก่าที่เสื่อมสภาพหรือมีจำนวนหลายจุดในปาก ซึ่งอาจปล่อยไอปรอทออกมาทีละน้อยตลอดเวลา
CHELATION ใช้เวลานานไหม? ต้องทำบ่อยแค่ไหน?
การทำ CHELATION (คีเลชั่น) ในแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 60–90 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณสารที่ต้องดริปและการประเมินของแพทย์เฉพาะทาง โดยจะดริปผ่านทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารจับโลหะหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับความถี่ในการทำ แนะนำให้เริ่มต้น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องประมาณ 5–10 ครั้ง แล้วจึงปรับระยะห่างตามอาการหรือความเสี่ยง เช่น เดือนละ 1–2 ครั้ง เพื่อการดูแลระยะยาว แพทย์จะเป็นผู้วางแผนอย่างเหมาะสมตามระดับโลหะหนักในร่างกาย ซึ่งสามารถประเมินได้จากการซักประวัติ ตรวจเลือด หรือตรวจปัสสาวะ จึงมั่นใจได้ว่า การทำ CHELATION ไม่ใช่แค่ล้างสารพิษทั่วไป แต่เป็นการดูแลแบบเฉพาะบุคคลที่อิงจากหลักการแพทย์จริง ครับ
ดริปแต่ละครั้งใช้เวลากี่นาที?
การทำ CHELATION ในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 45–60 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการให้สารคีเลชั่น (Chelating Agent) เช่น EDTA ผ่านทางหลอดเลือดดำอย่างช้า ๆ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมและขับโลหะหนักออกได้อย่างปลอดภัย โดยไม่รบกวนระบบไหลเวียนเลือดหรือการทำงานของอวัยวะสำคัญ ระยะเวลานี้อาจมีการปรับเล็กน้อยตาม สุขภาพพื้นฐานของแต่ละคน, ความเข้มข้นของสูตร และการตอบสนองของร่างกาย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินก่อนทุกครั้ง หากมีภาวะไตอ่อนหรือระบบเผาผลาญทำงานช้ากว่าปกติ อาจต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเพื่อความปลอดภัย ช่วงเวลาระหว่างดริปยังถือเป็นโอกาสให้ร่างกายได้พัก และให้ระบบการไหลเวียนได้รับการกระตุ้นแบบมีเป้าหมาย ช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพครับ
ความถี่ที่แนะนำเพื่อให้เห็นผล
การทำ CHELATION เพื่อขจัดโลหะหนักและสารพิษสะสมในร่างกาย ควรเริ่มต้นที่ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ติดต่อกันประมาณ 4–6 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายเริ่มตอบสนองต่อกระบวนการฟื้นฟูระบบไหลเวียนเลือดและการขับสารตกค้าง จากนั้นสามารถเว้นระยะห่างเป็นทุก 2–4 สัปดาห์ หรือทำตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ดูแลตามภาวะสุขภาพของแต่ละคน
ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเมื่อทำต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีภาระโลหะหนักสะสมจากสิ่งแวดล้อมหรือพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ
ส่วนประกอบในสูตร CHELATION ของ TBL Clinic มีอะไรบ้าง?
สูตร CHELATION ของ TBL Clinic ถูกออกแบบเฉพาะโดยทีมแพทย์ เพื่อช่วยดึงโลหะหนักและสารพิษที่สะสมในร่างกายอย่างปลอดภัย พร้อมฟื้นฟูระบบการไหลเวียนเลือด และเซลล์ในระดับลึก ประกอบด้วยสารสำคัญดังนี้
- EDTA (Ethylenediaminetetraacetic acid) สารคีเลตที่ช่วยจับโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม แล้วขับออกผ่านทางไต
- Vitamin C ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกันและปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
- Vitamin B-complex กลุ่มวิตามินที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบประสาท และการเผาผลาญพลังงาน
- Magnesium แร่ธาตุสำคัญที่ช่วยลดการอักเสบ และสนับสนุนการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อ
CHELATION ปลอดภัยไหม?
CHELATION therapy ที่ TBL Clinic ได้รับการออกแบบให้ปลอดภัยสูงสุดในทุกขั้นตอน ด้วยการดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้สารที่ผ่านการรับรองจาก อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) เท่านั้น ไม่ใช่การใช้สูตรทั่วไปแบบไม่มีการควบคุม ในการทำแต่ละครั้ง จะมีการประเมินร่างกาย ตรวจเช็กประวัติสุขภาพ และอาการแฝงอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าสูตรที่ใช้เหมาะสมกับสภาพร่างกายเฉพาะบุคคล แม้จะเป็นการขจัดสารพิษและโลหะหนักที่ลึกถึงระดับเซลล์ แต่การให้สารผ่านทางหลอดเลือดดำจะอยู่ภายใต้การควบคุมเวลา ความเข้มข้น และปริมาณที่พอดี ทำให้ลดความเสี่ยงในการกระทบไตหรืออวัยวะสำคัญ ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลที่ CHELATION ที่ TBL Clinic จึงปลอดภัยและเชื่อถือได้ในระยะยาว
มีผลข้างเคียงอะไรที่ควรรู้?
การทำ CHELATION ที่ TBL Clinic แม้จะปลอดภัยสูง แต่เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เราขออธิบายผลข้างเคียงเล็กน้อยที่อาจพบได้บ้างในบางราย โดยทั้งหมดนี้เป็นอาการที่สามารถจัดการได้และไม่ใช่เรื่องน่ากังวล
- อาการเวียนศีรษะเล็กน้อย เกิดได้ในช่วงแรกของการดริป โดยเฉพาะในผู้ที่ร่างกายขาดน้ำหรือพักผ่อนไม่พอ
- รู้สึกอ่อนเพลียหลังดริป เป็นผลจากการที่ร่างกายเริ่มขับของเสียออก จึงแนะนำให้นอนพักให้เพียงพอ
- ปัสสาวะบ่อยหรือสีเข้มชั่วคราว แสดงถึงการขับสารโลหะออกผ่านทางไต เป็นสัญญาณว่ากำลังเกิดการดีท็อกซ์
- รู้สึกเย็นหรือร้อนช่วงแขนขณะดริป เกิดจากอุณหภูมิของสารที่เข้าสู่หลอดเลือด เป็นเรื่องปกติและจะหายได้ในเวลาไม่นาน
CHELATION ช่วยอะไรได้บ้าง? แค่ล้างพิษจริงไหม?
หลายคนอาจเข้าใจว่า CHELATION เป็นแค่การ “ล้างพิษ” แต่ความจริงแล้วผลลัพธ์ของการทำ CHELATION ครอบคลุมมากกว่านั้น และช่วยเสริมสุขภาพในระดับลึก ดังนี้ครับ
- ลดโลหะหนักสะสมในเลือด เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ซึ่งเป็นสารพิษที่มองไม่เห็นแต่ทำร้ายเซลล์ได้เรื่อย ๆ
- เสริมระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น โดยลดการเกาะตัวของโลหะหนักที่ผนังหลอดเลือด
- ลดอาการล้าเรื้อรัง สมองเบลอ เมื่อโลหะหนักลดลง ร่างกายจะใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ช่วยเสริมประสิทธิภาพของตับและไต เพราะลดภาระในการกรองสารพิษ
มีผลกับผิวพรรณ ระบบภูมิคุ้มกัน และพลังงานหรือไม่?
หลังจากร่างกายได้รับการขจัดโลหะหนักและสารพิษส่วนเกินออกไป ระบบต่างๆ ก็กลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น การสะสมของโลหะหนักมักทำให้เซลล์อ่อนแรง การสร้างพลังงาน (ATP) ลดลง และภูมิคุ้มกันถดถอย เมื่อโลหะเหล่านี้ถูกกำจัด การทำงานของ ไมโตคอนเดรีย ดีขึ้น ส่งผลให้พลังงานในแต่ละวันสูงขึ้นแบบรู้สึกได้ ในด้านผิวพรรณ การลดการอักเสบและการฟื้นฟูการไหลเวียนเลือดช่วยให้ผิวดูสว่าง กระจ่างใส และฟื้นตัวได้ไวขึ้น นอกจากนี้ ระบบภูมิคุ้มกัน ที่เคยถูกกดจากความเครียดของสารพิษก็แข็งแรงขึ้น ลดโอกาสป่วยบ่อยหรืออักเสบเรื้อรังได้ชัดเจน ดังนั้นการดริปสูตรที่ช่วยขับโลหะหนัก ไม่ได้แค่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังช่วยให้ผิวและพลังงานโดยรวมดีขึ้นอย่างเป็นระบบ
ราคา IV Drip สูตร CHELATION อยู่ที่เท่าไหร่? คุ้มค่าหรือเปล่า?
ราคา CHELATION ที่ TBL Clinic เริ่มต้นที่ 2,500 บาทต่อครั้ง โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ พร้อมใช้สารที่ผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
แล้วคุ้มไหม? ลองพิจารณาดังนี้ครับ
- ช่วยลดภาระตับ ไต และระบบกรองของร่างกาย
- เสริมสุขภาพระยะยาวโดยลดโลหะหนักสะสม
- ทางเลือกสำหรับผู้ที่สัมผัสมลพิษบ่อย เช่น ฝุ่น PM2.5 หรืออาหารแปรรูป
FAQ (คำถามที่พบบ่อย)
- CHELATION คือการล้างสารพิษแบบไหน?
ตอบ เป็นการใช้สารจับโลหะหนักในเลือดแล้วขับออกทางปัสสาวะอย่างปลอดภัย - ต้องตรวจเลือดก่อนทำ CHELATION ไหม?
ตอบ แนะนำให้ตรวจเบื้องต้นเพื่อให้แพทย์วางแผนได้แม่นยำยิ่งขึ้น - CHELATION เหมาะกับคนที่ไม่มีโรคประจำตัวหรือเปล่า?
ตอบ เหมาะทั้งคนปกติและคนที่อยากดูแลลึกจากภายใน - ดริปแล้วจะรู้สึกอย่างไร?
ตอบ อาจรู้สึกเย็นแขนขณะดริป และสดชื่นขึ้นหลังจากผ่านไป 1–2 วัน - ทำที่ TBL Clinic ปลอดภัยจริงไหม?
ตอบ ปลอดภัย 100% เพราะดูแลโดยแพทย์ ใช้สารผ่าน อย. และผสมในห้องปลอดเชื้อ