รอยสักที่เคย เท่ ในวันหนึ่ง อาจกลายเป็นภาระใจ ในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะต้องเข้าสมัครงานสายออฟฟิศที่จริงจังขึ้น หรืออยากเริ่มต้นครอบครัวใหม่แบบ clean look รวมถึงบางคนแค่อยาก reset ชีวิตให้กลับมาเฟรช รอยสักเดิมจึงกลายเป็นเหมือน hashtag ที่อยากกดลบออกไป เลเซอร์ลบรอยสักจึงถูกพูดถึงหนักมากในยุคนี้ เพราะไม่เพียงช่วยให้เม็ดสีจางลงแบบเห็น progress แต่ยังปลอดภัยกว่าการลบด้วยวิธีเก่าๆ ที่เสี่ยงทิ้งรอยแผลเป็น
ในฐานะแพทย์ ผมบอกเลยว่าคำถามยอดฮิตคือ เลเซอร์ลบรอยสักเจ็บไหม ต้องทำกี่ครั้งถึงจะจางหมด? ซึ่งจริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับสี ขนาด และตำแหน่งของรอยสัก แต่ข่าวดีคือ เทคโนโลยีเลเซอร์รุ่นใหม่ช่วยจัดการได้ตรงจุดมากขึ้น อ่านต่อไปคุณจะได้เห็นคำตอบแบบเคลียร์ๆ ว่าการลบรอยสักด้วยเลเซอร์คุ้มจริงไหม และต้องดูแลยังไงให้ผิวกลับมาเนียนใสแบบไร้ drama
ลบรอยสักด้วยเลเซอร์คืออะไร ทำงานอย่างไร ?
หลายคนอาจยังสับสนว่า เลเซอร์ลบรอยสัก แตกต่างจากวิธีลบรอยสักแบบเดิม ๆ อย่างไร จริง ๆ แล้วหลักการคือการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ยิงไปยังเม็ดสีหมึกใต้ผิว เลเซอร์จะทำให้เม็ดสีแตกตัวออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ จนร่างกายสามารถกำจัดออกได้ตามกลไกธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คือรอยสักค่อย ๆ จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นให้กวนใจ
เลเซอร์รอยสัก ที่ใช้กันในปัจจุบันมีหลายประเภท เช่น Q-Switch Picosecond และ Pico-K แต่ละชนิดมีความยาวคลื่นที่ต่างกันเพื่อจัดการกับสีหมึกหลายโทน เช่น สีดำที่ลบง่ายที่สุด หรือสีสดอย่างแดง น้ำเงิน เขียว ที่ต้องใช้เทคนิคและความแม่นยำมากขึ้น การเลือกเครื่องเลเซอร์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่แพทย์ต้องประเมินก่อนเสมอ
หากเปรียบเทียบกับ วิธีลบรอยสัก แบบเดิม เช่น การขัดผิวหรือการผ่าตัด จะเห็นชัดว่าเลเซอร์มีข้อได้เปรียบเรื่องความปลอดภัย ไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นได้มากกว่า จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักของคนที่อยากกลับมามีผิวเรียบเนียนแบบมั่นใจ
หลักการทำงานของเลเซอร์ลบรอยสักด้วย Pico Laser
เลเซอร์ PICO-K ถือว่าเป็นเทคโนโลยีลบรอยสักที่ถูกพูดถึงเยอะในตอนนี้ เพราะทำงานด้วยความเร็วระดับ picosecond หรือเสี้ยววินาทีสั้นมากๆ หลักการคือการส่งพลังงานแสงลงไปที่เม็ดสีหมึกใต้ผิว แล้วแตกเม็ดสีออกเป็นชิ้นเล็กละเอียดกว่าที่เลเซอร์แบบเดิมทำได้ ร่างกายจึงกำจัดออกผ่านระบบภูมิคุ้มกันได้ไวขึ้น
สิ่งที่ทำให้ PICO-K ดูแตกต่างคือมันใช้พลังงานสูง แต่ใช้เวลาสั้นมาก ผลที่ได้คือการกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบ ๆ น้อยลง ลดโอกาสเกิดรอยไหม้หรือรอยแผลเป็น คนไข้จะเห็นว่ารอยสักเริ่มจางลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และใช้จำนวนครั้งน้อยกว่าการลบด้วย Q-Switch ทั่วไป ในมุมของ Gen Z หลายคนมองว่าเป็นวิธี reset ผิว แบบไม่ต้องกลัวดราม่า เพราะเลเซอร์ PICO-K ไม่ได้แค่จัดการเม็ดสีอย่างเดียว แต่ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย เรียกง่าย ๆ ว่าลบหมึกเก่าและบูสต์ผิวไปพร้อมกัน อ่านบทความน่าสนใจ : เลเซอร์ลบรอยสัก ลบได้หมดจริงไหม ? ทำกี่ครั้งหาย ? ราคาเท่าไหร่ ?
ข้อดีเมื่อเทียบกับการลบรอยสักแบบดั้งเดิม
เมื่อพูดถึงการลบรอยสัก หลายคนอาจเคยได้ยินวิธีดั้งเดิม เช่น การขัดผิว การกรอด้วยสารเคมี หรือแม้กระทั่งการผ่าตัด ซึ่งบอกตรงๆ ว่ามีความเสี่ยงสูง ทั้งเจ็บ ฟื้นตัวยาว และเสี่ยงต่อการทิ้งแผลเป็น แต่เมื่อเทียบกับ เลเซอร์ลบรอยสัก รุ่นใหม่ ความแตกต่างถือว่าชัดมาก ผมสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้
- ลดความเสี่ยงต่อแผลเป็น เลเซอร์ทำงานเฉพาะเจาะจงกับเม็ดสี ไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบ ๆ
- เจ็บน้อยกว่า มีการใช้ยาชาเฉพาะที่ และพลังงานยิงสั้นมาก ทำให้ความรู้สึกขณะทำเบากว่าวิธีเดิม
- เห็นผลเร็วขึ้น รอยสักจางลงตั้งแต่ครั้งแรก และต้องทำซ้ำน้อยกว่าการขัดหรือผ่าตัด
- ดูแลหลังทำง่าย ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการพักฟื้น ผิวค่อย ๆ กลับมาเนียนตามธรรมชาติ
- ช่วยบูสต์ผิว บางเทคโนโลยีเลเซอร์ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบใสขึ้น
เลเซอร์ลบรอยสัก ทำลายเม็ดสีหมึกโดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง
เลเซอร์ลบรอยสัก Pico-K ลบได้ทุกสีไหม ?
หนึ่งในคำถามที่คนไข้มักชอบถามผมคือ เลเซอร์ลบรอยสัก Pico-K สามารถลบได้ทุกสีหรือไม่ คำตอบคือ “เกือบทุกสี” แต่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ หลักการของ Pico-K คือการยิงพลังงานด้วยความเร็วระดับ picosecond ซึ่งสามารถแตกเม็ดสีส่วนใหญ่ได้ดี โดยเฉพาะสีดำ น้ำเงิน แดง และน้ำตาล จะเห็นผลค่อนข้างชัดหลังทำไม่กี่ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ รอยสักสีเขียว เนื่องจากโครงสร้างเม็ดสีเขียวสะท้อนกับความยาวคลื่นของ Pico-K ทำให้การแตกเม็ดสีทำได้ไม่สมบูรณ์ ผลคือบางจุดอาจยังคงมีร่องรอยจาง ๆ อยู่ แม้จะทำซ้ำหลายครั้งก็ตาม ดังนั้นใครที่มีรอยสักสีเขียวเข้ม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาใช้เครื่องเลเซอร์ชนิดอื่นที่เหมาะสมกว่า ในแง่ของ Gen Z อาจเปรียบเหมือนการรีเซ็ตผิว ได้แทบทุกโทนสี แต่บางเฉดก็ยังมี limit อยู่บ้าง การเข้าใจข้อจำกัดนี้จะช่วยให้วางแผนการลบรอยสักด้วย เลเซอร์รอยสัก Pico-K ได้อย่างสมจริงและไม่คาดหวังเกินไป
ลบรอยสัก กี่ครั้งหาย ?
คำถามยอดฮิตที่ผมเจอบ่อยมากคือ ลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ต้องทำกี่ครั้งถึงจะหาย คำตอบคือขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของรอยสัก สีที่ใช้ ความลึกของหมึกในชั้นผิว และอายุของรอยสักโดยตรง รอยสักสีดำหรือหมึกเก่า มักตอบสนองต่อเลเซอร์ได้ดีกว่า ใช้จำนวนครั้งน้อยกว่า ส่วนรอยสักสีสดหรือสักใหม่ ๆ มักต้องทำหลายรอบกว่าเม็ดสีจะแตกละเอียดจนร่างกายกำจัดออกได้หมด
โดยเฉลี่ยแล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 4–10 ครั้ง แต่สิ่งสำคัญคือความต่อเนื่อง เพราะการมาทำเพียงครั้งเดียวไม่สามารถลบรอยสักให้จางหายได้ทั้งหมด ต้องเว้นช่วงตามที่แพทย์แนะนำเพื่อให้ผิวฟื้นตัวและระบบภูมิคุ้มกันทำงานต่อเนื่อง พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าอยากเห็นผิวที่เรียบใสแบบ real result ต้องมาทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ การเว้นหรือขาดนัดไป จะทำให้ผลลัพธ์ช้าลงและไม่ชัดเจนตามที่คาดหวังครับ
ลบรอยสัก ตำแหน่งได้บ้าง ลบรอยสักขอบตา ได้ไหม ?
การทำ เลเซอร์ลบรอยสัก สามารถทำได้หลายตำแหน่งบนร่างกาย แต่ก็มีข้อควรระวังในบางจุดที่ผิวบอบบางหรือใกล้อวัยวะสำคัญ เช่น ดวงตา โดยปกติสามารถลบรอยสักได้ดังนี้ครับ
- แขนและขา พื้นที่ยอดฮิต รอยสักขนาดเล็กหรือใหญ่สามารถทำได้หมด และผิวบริเวณนี้มักฟื้นตัวไว
- หน้าอก หลัง ไหล่ มักใช้เลเซอร์ขนาดพลังงานสูงเพื่อให้หมึกแตกละเอียด เหมาะกับรอยสักสีเข้ม
- สักคิ้ว สามารถลบได้ แต่ต้องปรับพลังงานเลเซอร์ให้อ่อนลง เพื่อลดความเสี่ยงของรอยไหม้หรือรอยดำ
- สักขอบตา ตำแหน่งนี้มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากใกล้กับดวงตาโดยตรง ส่วนใหญ่จะไม่แนะนำให้ทำเลเซอร์ เพราะแม้จะมีที่ครอบตาป้องกัน แต่ก็ยังอันตรายต่อกระจกตาและจอประสาทตาได้
- บริเวณใบหน้าอื่นๆ เช่น ริมฝีปาก หรือแก้ม สามารถทำได้ แต่ต้องอาศัยความชำนาญและใช้พลังงานที่เหมาะสม
สรุปคือ เลเซอร์สามารถลบรอยสักได้แทบทุกตำแหน่ง แต่สำหรับ ลบรอยสักขอบตา ควรหลีกเลี่ยง เพราะความเสี่ยงต่อดวงตามีมากกว่าความคุ้มค่า หากอยากลบจริงๆ ต้องปรึกษาแพทย์ที่มีเครื่องมือเฉพาะและมาตรการป้องกันขั้นสูงครับ
เลเซอร์ลบรอยสัก เจ็บไหม ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
หลายคนกลัวการทำ เลเซอร์ลบรอยสัก เพราะคิดว่าจะเจ็บมาก จริง ๆ แล้วความรู้สึกเจ็บมีอยู่ครับ แต่ไม่ถึงขั้นทนไม่ได้ โดยมักอธิบายว่าเหมือนโดนหนังยางดีดหรือความร้อนจี๊ด ๆ บริเวณผิว และก่อนทำจะมีการทายาชาหรือประคบเย็นเพื่อลดความรู้สึก ทำให้การรักษาเป็นไปได้อย่างสบายมากขึ้น
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการเลเซอร์ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การรักษาปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน ผมแนะนำดังนี้
- งดแดดจัด 1–2 สัปดาห์ก่อนทำ ผิวที่คล้ำหรือไหม้แดดเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำหลังเลเซอร์
- งดใช้สครับหรือกรดผลไม้ที่ผิว เพื่อลดการระคายเคืองในวันที่ทำ
- พักผ่อนเพียงพอ ร่างกายที่แข็งแรงช่วยให้ฟื้นตัวไวขึ้นหลังทำ
- แจ้งโรคประจำตัวและยาที่ใช้ บางยามีผลต่อการแข็งตัวของเลือดหรือการสมานแผล
- ตั้งเป้าหมายที่เป็นจริง รอยสักจะไม่หายไปในครั้งเดียว ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งตามสีและขนาด
พูดง่ายๆ เลยคือ ความเจ็บมีนิดหน่อย แต่ก็อยู่ในระดับที่เอาอยู่ และถ้าเตรียมตัวตามนี้ก็จะช่วยให้ขั้นตอน เลเซอร์รอยสัก ผ่านไปแบบชิลๆ ไม่ต้องเครียดครับ
ลบรอยสัก เป็นแผลเป็นไหม ?
คำถามที่หลายคนกังวลคือ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ จะทำให้เกิดแผลเป็นหรือไม่ คำตอบคือส่วนใหญ่ “ไม่เป็น” หากใช้เครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐานและปรับพลังงานอย่างเหมาะสม หลักการของเลเซอร์คือการส่งพลังงานไปแตกเม็ดสีโดยตรง โดยแทบไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง จึงช่วยลดโอกาสเกิดรอยแผลถาวรได้มาก
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสเกิดรอยดำหรือรอยนูนเล็กน้อยในบางราย เช่น คนที่ผิวไวต่อการอักเสบ หรือดูแลแผลหลังทำไม่ถูกวิธี เช่น แกะสะเก็ดหรือโดนแดดจัดทันทีหลังเลเซอร์ อาการเหล่านี้มักเป็นเพียงชั่วคราวและสามารถดีขึ้นได้ พูดง่ายๆ ถ้าเลือกทำในคลินิกที่มีมาตรฐาน และดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำ โอกาสเกิดแผลเป็นจาก เลเซอร์ลบรอยสัก ถือว่าน้อยมากครับ
แผลพุพองจากการลบรอยสัก อันตรายไหม ?
หลังทำ เลเซอร์ลบรอยสัก บางคนอาจสังเกตเห็นแผลพุพองเล็กๆ บริเวณผิวที่ทำ ซึ่งจริงๆ แล้วถือว่าเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายต่อพลังงานเลเซอร์ ไม่ได้จัดว่าอันตรายร้ายแรง แต่เป็นเพียงอาการชั่วคราวที่เกิดจากการที่ผิวหนังชั้นบนถูกกระตุ้นจนเกิดการสะสมของน้ำใต้ผิว
สิ่งที่ต้องโฟกัสคือการดูแลแผลให้ถูกวิธี เช่น รักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงการแกะหรือถูแรงๆ และควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดโอกาสเกิดรอยดำถาวร โดยทั่วไปแผลพุพองเหล่านี้จะหายเองภายในไม่กี่วัน แผลลักษณะนี้ไม่ได้ น่ากลัว อย่างที่หลายคนคิด ขอเพียงดูแลให้ดีตามคำแนะนำ ก็สามารถกลับมามีผิวที่พร้อมรีเซ็ตแบบเนียนๆ ได้แบบไม่ต้องมีดราม่าครับ
ผลข้างเคียงและวิธีดูแลผิวหลังลบรอยสัก
การทำ เลเซอร์ลบรอยสัก แม้จะปลอดภัยและแม่นยำ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยที่เจอได้บ้าง เช่น ผิวแดง บวม หรือมีสะเก็ดเล็กๆ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติของร่างกาย ไม่ได้อันตราย เพียงต้องรู้วิธีดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง ผมแนะนำเสมอว่าช่วงแรกควรหลีกเลี่ยงแดดแรง ๆ งดการถูหรือเกา และใช้ยาตามที่แพทย์จัดให้เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นเร็วขึ้น ต่อไปเราจะมาลงรายละเอียดกันว่า ผลข้างเคียงที่อาจเจอได้หลังเลเซอร์ลบรอยสัก มีอะไรบ้าง และ วิธีดูแลผิวหลังลบรอยสัก ควรทำยังไง ถึงจะเห็นผลชัดแบบไม่มีดราม่า
ผลข้างเคียงที่อาจพบเจอได้หลัง เลเซอร์ลบรอยสัก
หลังจากทำ เลเซอร์ลบรอยสัก หลายคนอาจกังวลว่าจะมีผลข้างเคียงอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ จริง ๆ แล้วส่วนใหญ่เป็นอาการชั่วคราวที่ร่างกายแสดงออกเพื่อฟื้นฟูตัวเอง ผมขอสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้ครับ
- ผิวแดงและบวมเล็กน้อย พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากพลังงานเลเซอร์กระตุ้นการอักเสบเฉพาะที่ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1–3 วัน
- สะเก็ดหรือแผลเล็กๆ ร่างกายกำลังซ่อมแซมผิว ไม่ควรแกะออกเอง เพราะเสี่ยงทิ้งรอยดำ
- ผิวคล้ำหรือรอยดำชั่วคราว มักเกิดในคนที่ผิวเข้มอยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้าไม่เลี่ยงแดดหลังทำ
- อาการคันหรือแห้งลอก เกิดจากผิวที่กำลังผลัดเซลล์ใหม่ อาจใช้ครีมบำรุงตามที่แพทย์แนะนำ
- พุพองเล็กน้อย พบไม่บ่อย มักเกิดจากพลังงานสูงเกินไป แต่สามารถหายเองได้เมื่อดูแลถูกวิธี
อาการเหล่านี้ถือว่าเป็น part ของกระบวนการรักษา ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพียงรู้จักวิธีดูแลตัวเองก็สามารถผ่านไปได้แบบสบายๆ ครับ
วิธีดูแลผิวหลังลบรอยสัก ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
หลังจากทำ เลเซอร์ลบรอยสัก ไปแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การรักษาคือการดูแลผิวให้ฟื้นตัวอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดความเสี่ยงของรอยแผลหรือรอยดำ ผมแนะนำแนวทางง่าย ๆ ดังนี้ครับ
- รักษาความสะอาดผิว ใช้น้ำเกลือหรือสบู่อ่อนทำความสะอาด หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์แรง ๆ
- เลี่ยงแดดจัด รังสี UV กระตุ้นให้เกิดรอยดำได้ง่าย ควรใช้เสื้อผ้าปกปิดหรือทาครีมกันแดดเมื่อต้องออกกลางแจ้ง
- งดเกาและแกะสะเก็ด แม้จะคันแค่ไหนก็ควรอดทน เพราะการแกะออกเองเสี่ยงทิ้งรอยถาวร
- ประคบเย็นหากบวมแดง จะช่วยลดการอักเสบเฉพาะที่ได้ดี
- ใช้ยาหรือครีมตามคำแนะนำแพทย์ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นเร็ว ลดการระคายเคือง และเพิ่มความชุ่มชื้น
การดูแลต่อเนื่องเหล่านี้เหมือนเป็น checklist ที่ต้องทำจริงจัง ถ้าทำครบ ผิวก็จะกลับมาเนียนใสได้ไวแบบไม่ต้องมีดราม่าแน่นอนครับ
ค่าใช้จ่ายในการลบรอยสัก ราคาแพงไหม ?
เรื่องราคาของ เลเซอร์ลบรอยสัก เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้ เพราะมักคิดว่าแพง แต่จริง ๆ แล้วค่าใช้จ่ายถูกกำหนดจากหลายปัจจัย ทั้งขนาด สี และจำนวนครั้งที่ต้องทำ หากดูจากตารางราคาจะเห็นว่า คลินิกส่วนใหญ่จะคำนวณตามเซนติเมตรหรือพื้นที่ของรอยสัก ยิ่งรอยเล็ก ราคาก็ยิ่งเบากว่า
ตัวอย่างเช่น
- รอยสักไม่เกิน 10 ซม. ราคาเริ่มต้นประมาณหลักพันต่อครั้ง ถ้าเป็นแพ็กเกจหลายครั้งจะได้ราคาประหยัดลง
- รอยสักขนาดกลาง 10–30 ซม. ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้งสูงขึ้น แต่ถ้าเลือกคอร์สยาว เช่น 5–10 ครั้ง ราคาต่อครั้งจะลดลง
- รอยสักขนาดใหญ่กว่า 30 ซม. ราคาสูงกว่ากลุ่มอื่น แต่ยังมีแพ็กเกจที่ช่วยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายให้จับต้องได้
สรุปคือ ค่าใช้จ่ายในการลบรอยสักไม่ใช่ตัวเลขตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และโปรโมชั่นในแต่ละช่วง ซึ่งหากวางแผนให้ดี บอกเลยว่าการลบรอยสักไม่ได้น่ากลัวเรื่องงบประมาณอย่างที่หลายคนคิดครับ
ลบรอยสักราคา เท่าไหร่ ?
การทำ เลเซอร์ลบรอยสัก ราคาจะถูกกำหนดจากหลายองค์ประกอบ เช่น ขนาดของรอยสัก สีที่ใช้ และจำนวนครั้งที่ต้องเข้ารับการรักษา โดยจากตารางราคาที่เห็น จะสามารถแบ่งได้คร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- รอยสักไม่เกิน 10 ซม. ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นราว 1,999–5,000 บาทต่อครั้ง หากทำเป็นแพ็กเกจหลายครั้ง ราคาต่อครั้งจะยิ่งถูกลง
- รอยสักขนาดกลาง 10–30 ซม. ค่าใช้จ่ายประมาณ 4,999–8,500 บาทต่อครั้ง ขึ้นกับสีและตำแหน่ง
- รอยสักใหญ่กว่า 30 ซม. เริ่มต้นประมาณ 6,900–12,500 บาทต่อครั้ง เหมาะกับการเลือกทำแพ็กเกจเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
- จำนวนครั้งที่ทำ โดยเฉลี่ยต้องทำซ้ำ 4–10 ครั้งเพื่อให้รอยจางหมด ยิ่งเลือกคอร์สยาว ราคาจะเฉลี่ยต่อครั้งถูกลง
- โปรโมชั่นและรีวิว คลินิกบางแห่งจะมีราคาพิเศษสำหรับการจองคอร์ส หรือทำรีวิว ทำให้ราคาลดลงได้อีก
พูดง่าย ๆ คือ ราคาลบรอยสักไม่ได้แพงเกินเอื้อม อยู่ที่การเลือกขนาด แพ็กเกจ และการวางแผนการรักษาอย่างต่อเนื่องครับ
ลบรอยสัก ที่ไหนดี ?
การเลือกสถานที่ทำ เลเซอร์ลบรอยสัก ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะผลลัพธ์ที่ได้และความปลอดภัยขึ้นอยู่กับมาตรฐานการรักษา ไม่ใช่แค่ราคาถูกหรือโปรโมชั่นน่าสนใจเท่านั้น หลายคนเสิร์ชคำว่า ลบรอยสักใกล้ฉัน, ร้านลบรอยสัก ใกล้ฉัน, หรือแม้กระทั่ง คลินิกเลเซอร์ เพื่อหาตัวเลือก แต่ผมแนะนำว่าควรเช็กตามนี้ครับ
- ดูมาตรฐานเครื่องเลเซอร์ ควรเป็นเครื่องที่ผ่านการรับรอง เช่น Pico หรือ Q-Switch เพื่อให้สามารถจัดการรอยสักได้หลายสีโดยลดความเสี่ยงต่อผิว
- ประเมินความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ การปรับค่าพลังงานต้องอาศัยความเข้าใจทางผิวหนังและสรีรวิทยา ไม่ใช่แค่กดเครื่องตามโปรแกรม
- รีวิวจริงจากผู้ใช้บริการ ดูผลก่อน–หลังว่ารอยสักจางลงจริง และไม่มีรอยแผลเป็นตามมา
- ความสะอาดและการดูแลหลังทำ คลินิกที่ดีจะให้คำแนะนำการดูแลอย่างละเอียด และมีการติดตามผล
สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเสิร์ชว่า ลบรอยสัก ที่ไหนดี หรือเจอร้านใกล้บ้าน คำตอบที่ใช่คือสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพการรักษาและความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใดครับ
สรุป ลบรอยสักด้วยเลเซอร์ คุ้มไหมและควรเริ่มยังไงดี
การทำ เลเซอร์ลบรอยสัก ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์ เพราะเลเซอร์ทำงานกับเม็ดสีโดยตรง ไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง จึงลดความเสี่ยงของแผลเป็น เทคโนโลยีรุ่นใหม่อย่าง Pico-K ช่วยลบรอยสักได้หลายสี แม้ยังมีข้อจำกัดกับสีเขียว แต่โดยเฉลี่ยแล้วหากทำต่อเนื่อง 4–10 ครั้ง รอยก็จะค่อยๆ จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ เรื่องความเจ็บสามารถควบคุมได้ด้วยการทายาชาและการปรับพลังงาน ส่วนค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับขนาด สี และจำนวนครั้ง แต่สามารถวางแผนเป็นแพ็กเกจเพื่อประหยัดงบได้ ที่สำคัญคือการดูแลหลังทำ เช่น เลี่ยงแดด รักษาความสะอาด และงดแกะสะเก็ด ซึ่งทั้งหมดนี้หากปฏิบัติครบถ้วน การลบรอยสักก็จะพาคุณกลับไปมีผิวเรียบใสได้จริง พร้อมเพิ่มความมั่นใจให้กับลุคใหม่ในแบบที่ใช่สำหรับตัวเองครับ
FAQ คำถามที่เกี่ยวกับ ลบรอยสัก
- ลบรอยสักด้วยเลเซอร์เจ็บไหม ? ตอบว่ารู้สึกจี๊ด ๆ แต่ทนได้ มีการทายาชาก่อน
- ต้องลบกี่ครั้งรอยสักถึงหาย
ส่วนใหญ่ 4–10 ครั้ง ขึ้นกับสีและขนาด - ลบรอยสักแล้วจะกลับมาไหม
หมึกที่ถูกทำลายจะหายถาวร แต่บางสีอาจเหลือร่องรอย - หลังลบรอยสักต้องพักฟื้นนานไหม
ส่วนใหญ่เพียงไม่กี่วัน ดูแลผิวตามคำแนะนำหมอ - ลบรอยสัก ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ ?
ขึ้นกับขนาด แต่โดยเฉลี่ยเริ่มต้นที่หลักพันบาท
ถ้ายังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำเลเซอร์ลบรอยสัก หรืออยากให้หมอช่วยแนะนำเพิ่มเติม ทีมแพทย์ของ TBL Clinic พร้อมให้คำปรึกษาฟรีแบบจริงใจ ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับ
ทักมาคุยกันได้ที่ Line Official หรือ Inbox Facebook ได้เลย คุณหมอตอบเองครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center : 095-291-6565
Facebook : TBL Clinic-ทู บีเลิฟ คลินิก
e-mail : [email protected]
LINE : @tblclinic