รีวิว Morpheus8 เคสคุณครูบี เปลี่ยนหน้าห้อย เป็นหน้ายกใน 21 วัน

ตอนแรกบีไม่คิดเลยว่าความเหนื่อยจากการสอนหนังสือทุกวัน จะทำให้ผิวหน้าดูโทรมขนาดนี้ ในฐานะคุณครูที่ต้องอยู่หน้าห้องและอยู่หน้าจอตลอดเวลา บีเริ่มรู้สึกว่าผิวเริ่มหย่อน ร่องแก้มลึกขึ้นทุกวัน แต่งหน้าก็ไม่ติดเหมือนก่อน จนเพื่อนทักว่าดูเหนื่อยจัง ทั้งที่พักผ่อนครบทุกคืน นั่นแหละคือจุดที่บีรู้ว่าต้องเริ่มดูแลตัวเองจริงจัง

หลังจากหาข้อมูลหลายที่ บีตัดสินใจมาทำ Morpheus8 ที่ TBL Clinic เพราะอยากยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด อยากให้หน้ากลับมาตึงแต่ยังดูเป็นธรรมชาติ พอหมออธิบายเทคโนโลยี RF Microneedling ที่กระตุ้นคอลลาเจนลึกถึงชั้นผิว ก็รู้เลยว่า “นี่แหละทางของเรา และนี่คือเรื่องราวของบี จากหน้าห้อยในกระจก สู่ผิวที่ยกแน่นจนเพื่อนต้องถามว่า ไปทำอะไรมา?

จุดเริ่มต้นของคุณครูบี เมื่อความมั่นใจเริ่มหายไปพร้อมความหย่อนคล้อย

ช่วงที่บีเริ่มสังเกตว่าหน้าไม่เหมือนเดิมคือหลังอายุแตะเลข 3 กลางๆ กรอบหน้าที่เคยชัดเริ่มหาย ร่องแก้มชัดขึ้นจนเวลาแต่งหน้าจะเห็นชัดกว่าเดิม แป้งไม่ติดผิวเหมือนเมื่อก่อน ถึงจะลองเปลี่ยนครีมบำรุงหลายแบรนด์ก็ยังไม่ดีขึ้น แถมผิวยังดูโทรมและหย่อนจนเพื่อนทักอยู่บ่อยๆ ว่าพักผ่อนบ้างเถอะ ทั้งที่จริงบีนอนครบทุกวัน

บีเริ่มรู้สึกว่าความมั่นใจหายไปโดยไม่รู้ตัว เวลาสอนหนังสือหรือประชุมออนไลน์ ก็พยายามเลี่ยงกล้องตลอด จนวันหนึ่งบีตัดสินใจเข้ามาปรึกษาที่ TBL Clinic เพราะอยากฟังคำแนะนำจากหมอจริง ๆ ว่าอะไรคือสาเหตุของผิวหย่อนคล้อย และมีวิธีไหนที่ช่วยให้หน้าแน่นขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

ปัญหาผิวในวัยทำงานที่ผู้หญิงหลายคนเจอเหมือนคุณครูบี

บีเชื่อว่าผู้หญิงวัยทำงานหลายคนคงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี อายุเริ่มมากขึ้น คอลลาเจนในผิวก็เริ่มลดลงเรื่อย ๆ ทำให้ผิวไม่กระชับเหมือนเดิม บวกกับการใช้หน้าจอทั้งวัน ไม่ว่าจะสอนออนไลน์หรือเลื่อนมือถือ แสง Blue Light ก็มีผลเหมือนรังสี UV ที่ค่อยๆ ทำร้ายเซลล์ผิวให้เสื่อมเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว

พอรวมกับความเครียดสะสมจากการทำงาน ฮอร์โมน Cortisol ในร่างกายจะกระตุ้นให้คอลลาเจนสลายเร็วกว่าเดิม ผิวเลยเริ่มหย่อน บางวันถึงขั้นรู้สึกว่าแต่งหน้ายังไงก็ไม่สดใสเหมือนก่อน ถึงจะพยายามบำรุงด้วยสกินแคร์ตัวดังขนาดไหนก็ยังเอาไม่อยู่ สุดท้ายบีเลยเข้าใจว่า ถ้าผิวเสื่อมจากโครงสร้างข้างใน การบำรุงภายนอกอาจไม่พออีกต่อไป และนี่คือจุดที่บีเริ่มมองหาวิธีฟื้นฟูผิวที่เห็นผลลึกกว่าครีมทั่วไป

เหตุผลที่เลือกทำกับ TBL Clinic

เหตุผลที่บีเลือกทำ Morpheus8 กับ TBL Clinic ไม่ใช่แค่เพราะเห็นรีวิวเยอะ แต่เพราะอยากได้ที่ที่หมอดูแลแบบเฉพาะเคสจริงๆ ซึ่งที่นี่ให้ความรู้สึกหมอดูแลเหมือนคนในครอบครัว และมีความปลอดภัยทุกขั้นตอน

• หมอประเมินละเอียดก่อนทำ หมอใช้เครื่องสแกนผิวและคลำจุดหย่อนคล้อยจริง ๆ เพื่อดูว่าควรใช้พลังงานระดับไหน เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน
• ใช้เครื่องแท้เท่านั้น ที่นี่ใช้เครื่อง Morpheus8 จาก InMode USA ซึ่งเป็นรุ่นแท้และได้มาตรฐาน อย. ทำให้มั่นใจว่าเห็นผลจริงโดยไม่ต้องกลัวผลข้างเคียง
• มีโปรแกรมดูแลหลังทำครบวงจร หลังทำหมอจะติดตามผลทุกครั้ง แนะนำทรีตเมนต์ฟื้นฟู เช่น Aqua Rosa หรือ Gold Orisel เพื่อให้ผิวฟื้นไวและยกกระชับได้ต่อเนื่อง
• บรรยากาศอบอุ่น ไม่เร่งขายคอร์ส หมออธิบายทุกอย่างแบบเข้าใจง่ายและตรงไปตรงมา เหมาะกับคนที่อยากดูแลตัวเองโดยไม่ถูกกดดัน

รู้จัก Morpheus8 – ยกกระชับลึกถึงชั้นคอลลาเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด

Morpheus8 คือเทคโนโลยียกกระชับผิวรุ่นใหม่ที่หมอชอบใช้ในเคสผิวหย่อน เพราะสามารถส่งพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ลงลึกถึงชั้นคอลลาเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด ผ่านเข็มทองคำขนาดเล็กระดับไมครอนที่เจาะอย่างแม่นยำในแต่ละจุดของใบหน้า พลังงาน RF จะช่วยกระตุ้นให้ผิวเกิดการ Neocollagenesis หรือการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวแน่นและเรียบเนียนขึ้นจากภายใน

ข้อดีของ Morpheus8 คือสามารถลงได้หลายระดับความลึกในครั้งเดียว จึงจัดการได้ทั้งผิวตื้นและผิวลึกในรอบเดียว เหมาะกับคนที่อยากให้กรอบหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน อีกทั้งพลังงาน RF ยังช่วยปรับคุณภาพผิวโดยรวมให้ละเอียดขึ้น เห็นผลค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2–3 สัปดาห์ และอยู่ได้นานหลายเดือน

หลักการทำงานของ Morpheus8 

หลักการทำงานของ Morpheus8 คือการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ส่งผ่านเข็มทองคำขนาดเล็กเข้าสู่ผิวในระดับที่ลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า จุดเด่นคือพลังงานนี้จะกระจายเป็นความร้อนเฉพาะจุด เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างต่อเนื่อง

เมื่อคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้น ผิวจะค่อย ๆ ยกแน่นขึ้นตามธรรมชาติ รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบขึ้น และกรอบหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนหรือเริ่มมีร่องแก้มลึกเพราะอายุ Morpheus8 จึงเป็นเทคโนโลยีที่หมอใช้บ่อยในเคสยกกระชับ เพราะสามารถจัดการได้ลึกถึงรากของผิว ในระดับที่เลเซอร์ทั่วไปทำไม่ได้

แตกต่างจาก HIFU หรือ Thermage อย่างไร

หลายคนชอบถามหมอว่าMorpheus8 ต่างจาก HIFU หรือ Thermage ยังไง เพราะทั้งสามเทคโนโลยีต่างก็ยกกระชับผิวเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วทำงานกันคนละระดับและให้ผลที่ต่างกันชัดเจนครับ

หมอจะเลือก Morpheus8 ให้กับเคสที่ต้องการยกจากข้างใน และอยากให้ผิวแน่นจริง เพราะสามารถจัดการได้ทั้งคอลลาเจนและชั้นไขมันในคราวเดียว ส่วน HIFU จะเหมาะกับเคสที่ต้องการยกเบาๆ และ Thermage จะเด่นเรื่องผิวเนียนทั่วใบหน้า

ขั้นตอนการทำ Morpheus8 ของคุณครูบี ที่ TBL Clinic

ตอนมาทำ Morpheus8 ครั้งแรก บีแอบตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะได้ยินมาว่าเป็นตัวท็อปเรื่องยกกระชับ แต่พอได้คุยกับหมอจริงๆ ทุกอย่างละเอียดและเข้าใจง่ายมาก จนรู้สึกมั่นใจตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

• Step 1 เตรียมผิวก่อนทำ
  พนักงานจะทำความสะอาดผิวหน้าและทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 40 นาที ระหว่างนั้นหมอจะเข้ามาประเมินอีกครั้ง วางตำแหน่งจุดยิงและระดับพลังงานให้เหมาะกับความหย่อนของแต่ละส่วน เช่น แก้มล่าง กรอบหน้า หรือเหนียง
• Step 2 ระหว่างทำเลเซอร์
  ตอนยิงจริง บีรู้สึกแค่อุ่น ๆ เหมือนยางดีดเบา ๆ ไม่เจ็บอย่างที่คิด เพราะหมอใช้เครื่อง Morpheus8 แท้จาก InMode USA พลังงาน RF จะส่งผ่านเข็มทองคำลงไปถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ความรู้สึกคือแน่นแต่สบาย
• Step 3 Aftercare หลังทำ
  หลังทำหมอประคบเย็นทันทีและให้ครีมลดอักเสบ บีสามารถแต่งหน้าเบาๆ ได้ในวันถัดมา ไม่มีรอยไหม้หรือผิวลอกเลย หมอแนะนำให้งดออกแดดแรงๆ และใช้กันแดด SPF 50+ ทุกวัน เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด

ความรู้สึกของคุณครูบีหลังทำครั้งแรก

หลังทำ Morpheus8 ครั้งแรก บอกตรงๆ ว่าประทับใจมากค่ะ เพราะตอนแรกบีแอบคิดว่าจะต้องเจ็บแน่ๆ แต่พอทำจริงคือ ไม่เจ็บ ไม่ลอก และผิวดูแน่นขึ้นทันที หลังจากหมอยิงเสร็จ ผิวแค่แดงนิดๆ แล้วก็หายภายในไม่กี่ชั่วโมง วันรุ่งขึ้นยังแต่งหน้าไปสอนได้ตามปกติ

ช่วงสัปดาห์แรกบีเริ่มรู้สึกว่าผิวละเอียดขึ้น รูขุมขนเล็กลง และหน้าดูเรียวขึ้นเล็กน้อย พอครบประมาณ 2 อาทิตย์ กรอบหน้าที่เคยหายก็กลับมาชัดจนเพื่อนในโรงเรียนทักว่าดูหน้าเด็กลง หมออธิบายว่าผลจะชัดขึ้นเรื่อย ๆ เพราะร่างกายกำลังสร้างคอลลาเจนใหม่ ตอนนี้บีรู้เลยว่าการยกผิวโดยไม่ต้องพักฟื้นมันเวิร์กจริง และรู้สึกว่าหน้าเฟิร์มขึ้นทุกวัน

รีวิว Morpheus8 ผลลัพธ์หลังทำ 21 วัน – ผิวแน่นเรียบ กรอบหน้ากลับมาอีกครั้ง

ครบ 21 วันหลังทำ Morpheus8 บีเห็นความเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจนมาก ผิวแน่นขึ้นโดยไม่ต้องเพ่ง แก้มที่เคยหย่อนกลับมาตึงจนรู้สึกได้เวลาล้างหน้า รูขุมขนเล็กลง แต่งหน้าง่ายขึ้นและติดทนกว่าเดิม ที่สำคัญคือกรอบหน้ากลับมาคมเหมือนช่วงวัยยี่สิบปลาย ๆ

ผิวดูใสขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป หมอบอกว่าช่วงนี้เป็นจังหวะที่คอลลาเจนกำลังสร้างตัวเต็มที่ บีจึงดูแลต่อเนื่องตามคำแนะนำ ทั้งกันแดดและครีมบำรุงทุกวัน ตอนนี้คือมั่นใจมาก จนกล้าเปิดกล้องสอนโดยไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์ ผลลัพธ์นี้ทำให้หลายคนตามหา รีวิว Morpheus8 เพิ่มขึ้น เพราะต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงจริงเหมือนที่บีเจอมาค่ะ

การเปลี่ยนแปลงที่คุณครูบีรู้สึกได้ หลังทำ Morpheus8 

หลังทำ Morpheus8 ได้ครบเดือน บีรู้สึกเหมือนตัวเองกลับมาเป็นเวอร์ชันที่มั่นใจอีกครั้ง ตอนนี้เวลาส่องกระจกคือยิ้มได้โดยไม่ต้องพยายาม เพราะผิวดูแน่นขึ้นจริง ร่องแก้มที่เคยเห็นชัดก็จางลง กรอบหน้าชัดขึ้นจนไม่ต้องใช้คอนทัวร์ช่วยเหมือนแต่ก่อน ทุกเช้าตื่นมาก็รู้สึกว่าหน้าสดยังไหว กล้าออกไปเจอคนโดยไม่ต้องแต่งเยอะเหมือนเดิม บีว่าความเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่ผิวดูเด็กลง แต่คือความมั่นใจที่กลับมาพร้อมรอยยิ้มที่จริงกว่าทุกครั้ง และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้รู้ว่า Morpheus8 มันคุ้มจริง

ถ้าต้องการยกกระชับขั้นสุด Morpheus8 สามารถทำร่วมกับโปรแกรมอะไรได้บ้าง 

การยกกระชับที่เห็นผลไวที่สุดในยุคนี้ ไม่ได้พึ่งแค่เครื่องเดียว แต่เป็นการ ปรับครบ 3 มิติ ทั้งผิว หนังแท้ และโครงสร้างใบหน้า หมอเลยรวมคอมโบที่ TBL Clinic ใช้จริงกับเคสคุณครูบีและเคสยกหน้าแน่น ๆ ไว้ให้ครบที่นี่

Morpheus8 + ฉีดแฟตลดเหนียง — เคลียร์กรอบหน้าให้คมชัดก่อนยก

หลายคนที่มีเหนียงเล็ก ๆ หรือไขมันใต้คางมักเข้าใจผิดว่าทำเลเซอร์ยกหน้าอย่างเดียวก็พอ แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าไม่เคลียร์ชั้นไขมันก่อน ผลลัพธ์จะไม่คมเท่าที่ควร หมอมักแนะนำให้ทำ Morpheus8 คู่กับการฉีดแฟตลดเหนียง เพราะเป็นคอมโบที่ช่วยยกและเก็บกรอบหน้าได้พร้อมกัน

เริ่มจากการ ฉีดแฟตลดเหนียง เพื่อลดไขมันใต้คางที่บดบังกรอบหน้า เมื่อชั้นไขมันบางลงแล้ว ค่อยทำ Morpheus8 เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและยกผิวให้แน่นขึ้น จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าเดิมทั้งความเรียวและความกระชับของผิว

หมอ Tip: ควรเว้นระยะประมาณ 2 สัปดาห์ระหว่างแฟตกับ Morpheus8 เพื่อให้ไขมันสลายตัวเต็มที่ก่อนกระตุ้นผิวใหม่ วิธีนี้จะช่วยให้คอลลาเจนสร้างได้ดี ผิวแน่นไว และกรอบหน้าคมชัดขึ้นจนเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับก่อนทำ

Morpheus8 + โบท็อกซ์ล็อคกรอบหน้า – ยกกระชับแน่นแบบหน้ายุ่งไม่ได้เลย

เคสที่มีกล้ามเนื้อกรามแข็งหรือกรอบหน้าดูเหลี่ยมเกินไป หมอมักจะแนะนำให้ทำ Morpheus8 คู่กับโบท็อกซ์กราม (Masseter Reduction) เพราะเป็นการปรับรูปหน้าแบบสองทิศทาง — โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อส่วนล่างให้ดูเรียวขึ้น ส่วน Morpheus8 จะช่วยกระชับผิวและยกให้แน่นขึ้นพร้อมกัน

พอผิวถูกยกจากด้านในด้วยพลังงาน RF และชั้นกล้ามเนื้อคลายลง ใบหน้าจะดูเรียวขึ้นแบบธรรมชาติ ไม่แข็งหรือดูฝืนเหมือนผ่านการปรับรูปหน้าแรง ๆ ผลคือกรอบหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่อยากให้หน้าดูบาลานซ์มากขึ้น

หมอ Tip หลังยกหน้าเสร็จ การฉีดโบท็อกซ์กรามจะช่วย “ล็อคผล” ให้คงสภาพผิวตึงได้นานกว่าเดิม เพราะผิวไม่ถูกดึงซ้ำจากการใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป ทำให้ผลของ Morpheus8 อยู่ได้ยาวและเห็นกรอบหน้าชัดขึ้นทุกเดือน

Morpheus8 + ฟิลเลอร์กรอบหน้า – ยกกระชับพร้อมคอนทัวร์ที่ชัดเจนขึ้น

ในเคสที่ทำ Morpheus8 แล้วยกผิวได้ระดับหนึ่ง แต่ยังมีร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ขมับ หรือใต้ตาที่ดูยุบ หมอมักแนะนำให้เสริมด้วย ฟิลเลอร์กรอบหน้า เพื่อบาลานซ์โครงหน้าให้ดูสมส่วนและมีมิติที่ชัดขึ้น การยกกระชับด้วย Morpheus8 จะช่วยจัดโครงสร้างผิวให้แน่น ส่วนฟิลเลอร์จะช่วยเติมส่วนที่ขาด ทำให้ใบหน้าดูละมุนและคอนทัวร์ชัดขึ้นโดยไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ

การทำทั้งสองอย่างร่วมกันเหมาะกับคนที่อยากได้ผลลัพธ์ “ยกพร้อมเติม” เหมือนรีเฟรชใบหน้าใหม่ทั้งผิวและโครงสร้าง โดยเฉพาะคนที่อายุเริ่ม 30+ ที่เริ่มมีการยุบตัวของชั้นไขมันใต้ผิว

หมอ Tip: ก่อนทำทุกครั้งต้องให้แพทย์ประเมินอย่างละเอียด เพื่อวางปริมาณฟิลเลอร์และจุดฉีดที่เหมาะสมกับรูปหน้า เพราะถ้าเติมเกินความจำเป็น อาจทำให้สัดส่วนใบหน้าผิดเพี้ยนได้ การบาลานซ์คือหัวใจของความสวยแบบธรรมชาติ

โปรแกรมฟื้นฟูผิวหลังมอเฟียส8 ที่หมอแนะนำ

หลังทำ Morpheus8 ผิวจะอยู่ในช่วงฟื้นฟู หมอมักแนะนำให้ต่อด้วยโปรแกรม Aqua Rosa Treatment หรือ Gold Orisel Treatment เพื่อช่วยให้ผิวกลับมาสมดุลเร็วขึ้น Aqua Rosa จะเน้นเติมน้ำและปลอบประโลมผิวด้วยสารสกัดจากกุหลาบบัลแกเรีย 

ส่วน Gold Orisel ใช้มาสก์ทองคำช่วยลดรอยแดง เพิ่มความชุ่มชื้น และต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวอิ่มฟูและใสขึ้นทันทีหลังทำ เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการให้ผลของ Morpheus8 ชัดขึ้นและผิวแข็งแรงไวขึ้น หมอเรียกขั้นตอนนี้ว่า “การปิดจบการยกกระชับอย่างนุ่มนวล” ที่ช่วยให้ผิวฟื้นเร็วและคงความสวยได้ยาวนานกว่าเดิม

ดูแลหลังทำ Morpheus8 อย่างไรให้ผิวยกกระชับอยู่นาน

หลังทำ Morpheus8 ผิวจะเริ่มเข้าสู่ช่วงสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งเป็นช่วงสำคัญมากที่ต้องดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อให้ผลลัพธ์ยกกระชับอยู่ได้นานและผิวแข็งแรงต่อเนื่อง หมอสรุปแนวทางง่าย ๆ ที่ทำตามได้จริงไว้ให้ครับ

• ทากันแดดทุกวันอย่างมีวินัย ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ที่มี PA+++ และทาซ้ำทุก 3 ชั่วโมง โดยเฉพาะคนที่อยู่กลางแจ้งหรือใช้คอมพิวเตอร์ทั้งวัน เพราะรังสี UV และแสง Blue Light มีผลต่อคอลลาเจนโดยตรง
• เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างต่อเนื่อง ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid หรือ Ceramide เพื่อช่วยฟื้นฟูเกราะผิว ลดอาการแห้งและลอกหลังเลเซอร์
• หลีกเลี่ยงความร้อนจัดทุกชนิด ไม่ควรอบซาวน่า อบไอน้ำ หรือออกกำลังกายหนักภายใน 48 ชั่วโมงแรก เพราะความร้อนจะรบกวนกระบวนการกระตุ้นคอลลาเจน
• ดื่มน้ำเยอะและนอนพักให้เพียงพอ การพักผ่อนและการดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้เซลล์ผิวฟื้นตัวไวและยืดหยุ่นมากขึ้น
• ทำต่อเนื่องทุก 6 เดือน เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ให้ผิวคงความแน่นและยกกระชับได้ยาวนาน

3 เคล็ดลับหมอแนะนำหลังทำ Morpheus8

หลังทำ Morpheus8 หมออยากให้ทุกคนใส่ใจช่วง Golden Time ของผิว เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง การดูแลถูกวิธีจะช่วยให้ผลลัพธ์ยกกระชับอยู่ได้นาน ผิวแข็งแรง และใสขึ้นแบบสเต็ปต่อเนื่อง หมอสรุป 3 เคล็ดลับสำคัญที่อยากให้จำไว้ครับ

• กันแดดคือกุญแจสำคัญของผิวสวย ใช้กันแดดที่มี SPF 50+ และ PA+++ ขึ้นไป ทาซ้ำทุก 3 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงที่ต้องเจอแดดหรือใช้จอคอม-มือถือ เพราะแสง UV และ Blue Light กระตุ้นเม็ดสีและทำให้คอลลาเจนเสื่อมเร็ว
• บำรุงผิวให้ชุ่มตลอดเวลา หลังทำเลเซอร์ ผิวจะไวและสูญเสียน้ำง่าย ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มี Hyaluronic Acid หรือ Peptide Complex จะช่วยซ่อมเกราะผิวและลดรอยแดงได้ดี
• พักผ่อนให้พอ ดื่มน้ำให้เยอะ การนอนหลับลึกช่วยให้ร่างกายหลั่ง Growth Hormone ที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว ขณะที่การดื่มน้ำมากพอจะช่วยให้ผิวเด้งและดูฉ่ำสุขภาพดี

สรุป เคสคุณครูบีพิสูจน์แล้วว่า Morpheus8 ยกผิวได้จริงโดยไม่ต้องผ่าตัด

เคสของคุณครูบีเป็นภาพที่เห็นได้ชัดเจนว่าเทคโนโลยีสมัยนี้ช่วยยกกระชับผิวได้จริงโดยไม่ต้องผ่าตัด แค่เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับสภาพผิวและทำกับทีมแพทย์ที่เข้าใจโครงสร้างหน้าแบบลึกซึ้ง หลังทำ Morpheus8 เพียงไม่กี่สัปดาห์ ผิวของเธอดูแน่นขึ้น เรียบขึ้น และกรอบหน้าชัดขึ้นในแบบที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ

ที่สำคัญคือผิวไม่บาง ไม่ต้องพักฟื้น และยังสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ ทำให้หลายคนสนใจและค้นหาคำว่า รีวิว Morpheus8 มากขึ้น เพราะอยากเห็นผลลัพธ์จริงจากผู้ใช้จริงเหมือนเคสของคุณครูบี หมอมักย้ำกับคนไข้เสมอว่าผิวที่ดูอ่อนเยาว์ไม่ใช่เรื่องของอายุ แต่คือการดูแลอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันนี้ ซึ่งจะช่วยยืดความอ่อนเยาว์ให้ผิวในระยะยาวครับ

หากคุณกำลังเจอปัญหาผิวหย่อนคล้อยแบบคุณครูบี มาปรึกษาหมอที่ TBL Clinic ได้ฟรีเพียงแค่ทักมาสอบถามได้ที่ Line Official หรือ Inbox Facebook เพื่อวางแผนการยกกระชับที่เหมาะกับคุณ เริ่มก่อน ผิวยกก่อน และมั่นใจกว่าเดิมทุกครั้งที่ส่องกระจก