หลายคนอาจเคยสังเกตว่าพออายุมากขึ้น หรือแม้แต่จากการแสดงสีหน้าเป็นประจำ หางตาก็เริ่มตก ร่องริ้วรอยที่เรียกว่า “ตีนกา” ก็เริ่มชัดขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อย ดูเศร้า หรือดูมีอายุเกินจริง ทั้งที่ใจยังสดใสอยู่เลยครับ ในปัจจุบัน การฉีดโบท็อกยกหางตา จึงกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยม เพราะสามารถช่วยปรับรูปตาให้ยกกระชับ ลดรอยตีนกา และคืนความสดใสให้ใบหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ในบทความนี้ หมอจะมาอธิบายให้เข้าใจแบบละเอียดว่าโบท็อกช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร เห็นผลภายในกี่วัน และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้นครับ
โบท็อกยกหางตา คืออะไร? ทำงานอย่างไร ?
โบท็อกยกหางตา คือการใช้สาร Botulinum Toxin Type A ฉีดเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตาที่ดึงหางตาลง เช่น กล้ามเนื้อ orbicularis oculi (กล้ามเนื้อรอบตา) เพื่อคลายการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ทำให้หางตาตก ส่งผลให้หางตาดูยกขึ้น ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดครับ
กลไกการทำงานของโบท็อกคือการ “ยับยั้งการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทสู่กล้ามเนื้อ” เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวแล้ว ผิวหนังบริเวณนั้นจะดูเรียบตึงขึ้น ช่วยลดเลือนรอยตีนกาและปรับรูปตาให้ดูเปิดกว้างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหางตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยไม่ต้องใช้วิธีการศัลยกรรมครับ
โบท็อกช่วยเรื่องการยกหางตาอย่างไร ?
โบท็อกสามารถช่วยยกหางตาได้โดยการฉีดสาร Botulinum Toxin A เข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาที่ทำหน้าที่ดึงหางตาลง เช่น กล้ามเนื้อ orbicularis oculi ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้คลายตัว กล้ามเนื้อยกหางตาด้านบนจะทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้หางตาถูกยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ การยกหางตาด้วยโบท็อกจึงช่วยให้ดวงตาดูเปิดกว้าง สดใส ลดอาการตาตก และสามารถปรับรูปตาให้ดูยาวเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคหน้าเด็ก หวานละมุน หรืออยากปรับความสมดุลของตาทั้งสองข้างครับ
ฉีดโบท็อกยกหางตา ช่วยอะไรบ้าง ?
การฉีดโบท็อกยกหางตาไม่เพียงแค่ช่วยให้ดวงตาดูโตขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีข้อดีในด้านความงามและการปรับสมดุลบนใบหน้าอีกหลายประการครับ มาดูกันว่าโบท็อกหางตาสามารถช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
- ช่วยลดปัญหาตาตกจากอายุที่เพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อรอบดวงตามีแนวโน้มอ่อนแรงตามวัย การฉีดโบท็อกจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ดึงตาลง ทำให้หางตาดูยกขึ้น
- ปรับรูปตาให้เรียวยาวและดูอ่อนหวานขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีตาทรงกลมหรือตาตก การยกหางตาเล็กน้อยจะช่วยให้ใบหน้าดูละมุนและอ่อนเยาว์ขึ้น
- ช่วยเปิดดวงตาให้ดูสดใส ไม่ดูเหนื่อยล้า เมื่อหางตายกขึ้น ดวงตาจะดูเปิดกว้างมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มความมั่นใจเวลาสบตาหรือถ่ายรูป
- ลดเลือนริ้วรอยรอบหางตา (ตีนกา) การคลายกล้ามเนื้อรอบหางตาช่วยให้ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าจางลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
โบท็อกยกหางตาแก้ปัญหาตาตกและลดรอยตีนกาได้จริงไหม ?
โบท็อกยกหางตาถือเป็นทางเลือกที่ได้ผลดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาตาตกและรอยตีนกา โดยตัวยาจะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อบางมัดที่ดึงหางตาลง ทำให้หางตาดูยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาที่เกิดจากการแสดงสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา รอยตีนกา เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร ?
รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา หรือที่เรียกกันว่ารอยตีนกา มักเกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้วซ้ำๆ ร่วมกับการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสตินเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น และเกิดร่องลึกได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น วิธีแก้ไขที่เห็นผลชัดเจนและนิยมคือ การฉีดโบท็อกเพื่อลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณหางตา ช่วยให้รอยดูตื้นขึ้นและผิวรอบดวงตาเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ
ปัญหาตาตกมีสาเหตุมาจากอะไร ?
ปัญหาตาตก (Eyelid Ptosis) เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยครับ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแรง หนังตาหย่อน หรือเนื้อเยื่อรอบตาสูญเสียความยืดหยุ่นตามธรรมชาติ บางรายอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือพฤติกรรมที่ใช้สายตามาก เช่น จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน
ในบางกรณี ตาตกอาจเกี่ยวข้องกับภาวะทางระบบประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อตา ซึ่งควรได้รับการประเมินอย่างละเอียดจากแพทย์ก่อนเลือกแนวทางการรักษา เช่น การฉีดโบท็อกเพื่อช่วยยกหางตา หรือหัตถการเฉพาะทางอื่นๆ ครับ
ใครที่ควรฉีดโบท็อกยกหางตา ?
การฉีดโบท็อกเพื่อยกหางตาเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะช่วยให้ดวงตาดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะสมกับการฉีดโบท็อกชนิดนี้ครับ โดยกลุ่มที่ควรพิจารณา ได้แก่
- ผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อยจากอายุหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ช่วยให้ดวงตาดูยกขึ้น สดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่มีรอยตีนกา หรือริ้วรอยรอบหางตา โบท็อกสามารถลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยจางลง
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปตาให้ดูเฉี่ยวหรือคมขึ้น เหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มมิติให้ใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นหรือกลัวการศัลยกรรม โบท็อกเป็นวิธีที่ไม่รุกราน สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
- ผู้ที่เคยฉีดโบท็อกบริเวณอื่นแล้วพอใจกับผลลัพธ์ สามารถขยายผลการดูแลไปยังบริเวณดวงตาได้อย่างปลอดภัย
ข้อดี – ข้อเสียของการ ฉีดโบท็อกยกหางตา
การฉีดโบท็อกยกหางตาเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการปรับดวงตาให้ดูเฉียบคม สดใสขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่เช่นเดียวกับหัตถการอื่น ๆ ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณาที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจครับ
ข้อดีของการฉีดโบท็อกยกหางตา
- ช่วยยกกระชับบริเวณหางตา ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น สดใส ไม่ดูอ่อนล้า
- ลดรอยตีนกาและริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกหยุดงานหรือมีเวลาจำกัด
- ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อเสียหรือข้อจำกัด
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร อยู่ได้ประมาณ 3–5 เดือน ต้องฉีดซ้ำหากต้องการคงผลลัพธ์ต่อเนื่อง
- อาจเกิดอาการบวม ช้ำ หรือรอยแดงเล็กน้อย ในบางรายหลังฉีด
- ต้องอาศัยความแม่นยำสูง หากฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้รูปตาดูผิดธรรมชาติ หรือเกิดภาวะหนังตาตกชั่วคราวได้
ฉีดโบท็อกยกหางตากี่วันเห็นผล และผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน ?
สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปตาให้ดูเฉี่ยว ยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ การฉีดโบท็อกยกหางตาเป็นทางเลือกที่เห็นผลไวโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยผลลัพธ์จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้านครับ
กี่วันเห็นผล?
- เริ่มเห็นผลภายใน 3–5 วัน หลังฉีด โดยอาการเกร็งของกล้ามเนื้อจะเริ่มคลายตัว
- ผลชัดเจนที่สุดภายใน 10–14 วัน หลังจากนั้นหางตาจะยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ดูสดใสขึ้น
ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
- อยู่ได้นานประมาณ 3–5 เดือน แล้วแต่ปริมาณยูนิตที่ใช้ รวมถึงการตอบสนองของร่างกายแต่ละคน
- หากดูแลผิวดี และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เร่งการสลายของโบท็อก เช่น ดื่มแอลกอฮอล์หรืออยู่ในที่ร้อนจัด ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานขึ้นเล็กน้อย
โบท็อกยกหางตา สามารถฉีดซ้ำได้ไหม ?
การฉีดโบท็อกยกหางตาสามารถฉีดซ้ำได้ครับ และถือเป็นแนวทางปฏิบัติปกติสำหรับผู้ที่ต้องการรักษารูปตาให้ยกกระชับอยู่เสมอ โดยผลลัพธ์จากการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 4–6 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้และสภาพผิวของแต่ละบุคคล หากต้องการฉีดซ้ำ แนะนำให้เว้นช่วงอย่างน้อย 3–4 เดือน เพื่อป้องกันภาวะดื้อยา และให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ควรฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสมดุล ปลอดภัย และไม่แข็งตึงจนเกินไปครับ
โบท็อกยกหางตา ใช้กี่ยูนิต ?
โดยทั่วไปแล้ว การฉีดโบท็อกยกหางตาใช้ปริมาณตัวยาค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับจุดอื่น ๆ ของใบหน้า โดยมักอยู่ที่ประมาณ 4–10 ยูนิตต่อข้าง ขึ้นอยู่กับลักษณะกล้ามเนื้อรอบดวงตา ความลึกของรอย และผลลัพธ์ที่ต้องการ ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณที่เหมาะสมแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หางตายกขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ตึงจนเกินไป และยังคงการแสดงสีหน้าปกติได้ครับ
โบท็อกยกหางตา ยี่ห้อไหนดี ?
การเลือกยี่ห้อโบท็อกสำหรับฉีดบริเวณหางตาเพื่อลดรอยตีนกาและยกกระชับหนังตา ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความแม่นยำ ความปลอดภัย และความพึงพอใจของผลลัพธ์ที่ได้ โดยในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและผ่านการรับรองจาก อย. ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นแตกต่างกันดังนี้ครับ
- Botox Allergan (USA) เป็นโบท็อกระดับพรีเมียมจากอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูงและกระจายตัวยาแคบ ทำให้ควบคุมทิศทางได้แม่นยำ เหมาะอย่างยิ่งกับการฉีดบริเวณที่ต้องการความละเอียด เช่น หางตา และหน้าผาก ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัยสูง
- Nabota (Korea) โบท็อกจากเกาหลีที่ได้รับการยอมรับในคลินิกชั้นนำทั่วประเทศ มีจุดเด่นเรื่องการออกฤทธิ์เร็ว ราคาย่อมเยา และค่อนข้างอยู่ได้นาน เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นดูแลตัวเอง
- Xeomin (Germany) โบท็อกเยอรมันที่ไม่มีโปรตีนเจือปน ลดความเสี่ยงในการดื้อยา เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เรียบเนียน และเคยฉีดโบท็อกเป็นประจำมาก่อน
- Aestox (Korea) เป็นอีกทางเลือกจากเกาหลีที่มีคุณภาพดี กระจายตัวพอเหมาะ และให้ผลลัพธ์ที่ดูอ่อนโยน เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางบริเวณหางตา
ก่อนฉีดโบท็อกยกหางตาต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกยกหางตา การเตรียมตัวที่เหมาะสมจะช่วยให้หัตถการปลอดภัยขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ หมอขอแนะนำขั้นตอนการเตรียมตัวดังนี้ครับ
- งดการใช้ยาและอาหารเสริมบางชนิด ควรงดรับประทานยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา และสมุนไพรบางชนิด อย่างน้อย 3–5 วันก่อนทำ เพื่อลดโอกาสช้ำหรือเลือดออกใต้ผิวหนัง
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัวมากกว่าปกติและเพิ่มความเสี่ยงในการฟกช้ำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงในคืนก่อนวันฉีด เพื่อให้ผิวและร่างกายพร้อมที่สุด ลดโอกาสบวมหลังฉีด
- ล้างหน้าให้สะอาด หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในวันที่เข้ารับบริการ และควรล้างหน้าให้สะอาด เพื่อให้ผิวบริเวณที่ฉีดปราศจากสิ่งสกปรก ลดโอกาสการติดเชื้อ
- แจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์ หากมีโรคประจำตัว แพ้ยา หรือกำลังตั้งครรภ์ ควรแจ้งแพทย์อย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาให้ปลอดภัยที่สุด
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกยกหางตา
หลังจากฉีดโบท็อกยกหางตาแล้ว การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้ดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง หมอขอแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดที่ควรปฏิบัติไว้ดังนี้ครับ
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด ภายใน 24 ชั่วโมงแรก ไม่ควรจับหรือนวดแรงบริเวณรอบหางตา เพื่อป้องกันการกระจายตัวของโบท็อกไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
- งดนอนราบ 4 ชั่วโมงหลังฉีด ควรรอให้ตัวยาเริ่มทำงานในตำแหน่งที่ต้องการก่อนการนอนราบ เพื่อให้ผลลัพธ์แม่นยำที่สุด
- งดออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น วิ่ง หรืออบซาวน่า เป็นเวลา 24–48 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายหลอดเลือดที่อาจรบกวนฤทธิ์ของตัวยา
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ในช่วง 1–3 วันแรก หลังฉีด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของรอยช้ำและทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่
- ดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น และส่งเสริมการทำงานของโบท็อกได้ดียิ่งขึ้นครับ
ฉีดโบท็อกยกหางตา ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาของการฉีดโบท็อกยกหางตา จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้อของโบท็อกที่เลือกใช้ ปริมาณยูนิต รวมถึง ประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีด และ มาตรฐานของคลินิก ที่ให้บริการ โดยทั่วไป ราคาฉีดโบท็อกเพื่อยกหางตาจะอยู่ที่ ประมาณ 3,000–8,000 บาท ต่อครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ เช่น Botox Allergan, Nabota, หรือ Xeomin ซึ่งแต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติและช่วงราคาที่แตกต่างกัน
ทำไมต้องเลือก TBL Clinic สำหรับการฉีดโบท็อกยกหางตา ?
การฉีดโบท็อกเพื่อยกหางตาให้ดูเฉียบคม สดใสขึ้นนั้น ต้องอาศัยความแม่นยำสูงในการประเมินและวางตำแหน่งฉีด หากฉีดลึกเกินหรือตื้นเกินอาจส่งผลต่อการแสดงสีหน้าได้ ที่ TBL Clinic เราให้ความสำคัญกับ “ความงามที่ปลอดภัย” โดยมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ตรงด้านปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกมากกว่า 10 ปีเราเลือกใช้ โบท็อกแท้ 100% ผ่านการรับรองจาก อย. พร้อมวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าแต่ละบุคคล เพื่อออกแบบผลลัพธ์ที่ยกหางตาอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ตึง ไม่แข็ง และยังคงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้ออย่างอ่อนโยน