เลขที่ ฆสพ./สบส 1536/2568

TBL Clinic

ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม กี่วันเห็นผล เข้าใจจริงก่อนตัดสินใจ

ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม

หัวข้อ

หลายคนอาจเคยคิดว่า อยากยกกระชับผิวให้ดูสดใสขึ้น แต่ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากพักฟื้นนาน การร้อยไหมจึงกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ถูกพูดถึงบ่อยในช่วงหลัง ๆ แต่ก็ยังมีข้อสงสัยตามมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็น ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม ร้อยไหมกี่วันถึงเห็นผล หรือ ต้องกลับมาทำซ้ำทุกกี่ปี

สิ่งเหล่านี้เป็นคำถามที่หมอได้ยินจากคนไข้แทบทุกวัน และมันสะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการแค่ ความสวยชั่วคราว แต่กำลังมองหาความมั่นใจที่ยืนยาวและคุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนไป บทความนี้หมอจะช่วยไขข้อสงสัยให้ครบถ้วน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ด้วยความเข้าใจจริง ไม่ใช่แค่ตามกระแส

ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม ?

การร้อยไหมถือเป็นเทคนิคยกกระชับผิวที่ใช้ ไหมละลาย เช่น PDO, PLLA หรือ PCL เส้นไหมเหล่านี้จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen neogenesis) ใต้ผิว ทำให้ผิวตึงและกระชับขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ แต่คำถามยอดฮิตคือ ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม จริงๆ แล้วระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดของไหมและสภาพผิวของแต่ละคน โดย PDO มักอยู่ได้ 6–8 เดือน PLLA 12–18 เดือน และ PCL อาจยาวถึง 24 เดือน

สำหรับคนวัย 30+ ที่ผิวเริ่มหย่อนคล้อยเล็กน้อย ผลลัพธ์จะดูชัดเจนและอยู่ได้ยาวกว่า ส่วนคนที่อายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนอาจลดลง ทำให้ผลลัพธ์สั้นลงบ้าง แต่การดูแลหลังทำ เช่น เลี่ยงการขยับใบหน้าหนักๆ และเสริมวิตามินที่ช่วยบำรุงผิว ก็ช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น ถือเป็นเทคนิคที่ทั้งตอบโจทย์ความสวยและความมั่นใจในแบบสายเฮลท์ตี้และยังคงคูลตามเทรนด์

ร้อยไหม foxy eyes อยู่ได้นานไหม ?

เทรนด์ตายกเฉี่ยวหรือ foxy eyes กำลังมาแรงมากในกลุ่มวัยรุ่นและสาว ๆ ที่อยากได้ลุคสายฝอคม ๆ การทำร้อยไหม foxy eyes คือการใช้เส้นไหมละลายที่ออกแบบมาเพื่อดึงพยุงผิวบริเวณหางตาและขมับ ผลลัพธ์ที่ได้คือดวงตาดูยกขึ้น ใบหน้าคมชัด แต่หลายคนก็ยังถามกันบ่อยว่า ร้อยไหม foxy eyes อยู่ได้นานไหม

โดยทั่วไปไหมละลายแบบ PDO อยู่ได้ราว 6–8 เดือน ส่วน PCL หรือ PLLA อยู่ได้ยาวกว่า 12–24 เดือน ขึ้นกับชนิดและสภาพผิว แต่ที่ TBL Clinic เราเลือกใช้ ไหม Mint fix mini ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการยึดเกาะและยกผิวให้กระชับได้ดีกว่าไหมทั่วไป ผลลัพธ์ที่ได้จึงชัดเจนและอยู่ได้นานขึ้น แม้ผ่านไปหลายเดือนตาก็ยังดูเฉี่ยวสวยแบบไอคอนิก

บทความแนะนำ : ร้อยไหม Foxy Eyes เทรนด์ยกหางตาเฉี่ยว สวยคมแบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอ

ร้อยไหม หน้าเรียว อยู่ได้นานไหม ?

การทำร้อยไหมหน้าเรียว ถือเป็นเทคนิคที่ช่วยยกกระชับกรอบหน้า ลดความหย่อนคล้อย และทำให้ใบหน้าดูเป็น V-shape ชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เส้นไหมละลาย เช่น PDO PLLA และ PCL จะถูกสอดเข้าไปใต้ผิวเพื่อทำหน้าที่พยุงเนื้อเยื่อ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ (Collagen stimulation) ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวและกระชับขึ้นทันทีหลังทำ

ในเรื่องระยะเวลา โดยทั่วไป ไหม PDO อยู่ได้ราว 6–8 เดือน ส่วน PLLA และ PCL จะให้ผลยาวกว่า คือประมาณ 12–24 เดือน แต่ที่ TBL Clinic เราเลือกใช้ ไหม Mint Fine ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม PDO แต่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการปรับกรอบหน้า มีความยืดหยุ่นสูงและยึดเกาะผิวได้ดี จึงช่วยให้ผลลัพธ์ของหน้าเรียวอยู่ได้นานขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ และเพิ่มความมั่นใจแบบไม่โป๊ะ เหมาะกับสาย Gen Z ที่อยากได้ลุคหน้าชัดแบบไอคอนิก

บทความแนะนำ : ร้อยไหมหน้า เคล็ดลับยกกระชับ ปรับหน้าเรียว สวยเฟิร์มได้โดยไม่ต้องเจ็บตัวเยอะ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ร้อยไหม อยู่ได้นานแค่ไหน ?

การร้อยไหมจะอยู่ได้นานหรือไม่ ขึ้นกับหลายปัจจัยที่ทำงานร่วมกัน ไม่ได้มีแค่เรื่องของเส้นไหม แต่ยังรวมถึงเทคนิคและสภาพผิวของแต่ละคนด้วย โดยสรุปคือ ชนิดไหมละลายที่เลือกใช้ จะเป็นตัวกำหนดช่วงเวลาเบื้องต้น เช่น PDO, PLLA หรือ PCL ซึ่งมีอายุแตกต่างกัน ถัดมาคือ เทคนิคการร้อยและความชำนาญของแพทย์ ที่ช่วยให้ไหมยึดเกาะผิวได้ดีขึ้น และสุดท้ายคือ อายุและสภาพผิว หากผิวยังมีคอลลาเจนหนาแน่น ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้ยาวนานกว่า ซึ่งเดี๋ยวเรามาแยกดูรายละเอียดในแต่ละปัจจัยกันครับ

ชนิดไหมละลายที่เลือกใช้

หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม ขึ้นกับชนิดของไหมที่เลือกใช้ เส้นไหมละลายที่นิยมมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

  • PDO (Polydioxanone): อยู่ได้ราว 6–8 เดือน นิยมมากเพราะให้ผลกระชับทันที และปลอดภัยสูง
  • PLLA (Poly-L-Lactic Acid): อยู่ได้ประมาณ 12–18 เดือน จุดเด่นคือกระตุ้นคอลลาเจนได้ชัด ผลลัพธ์เนียนเป็นธรรมชาติ
  • PCL (Polycaprolactone): อยู่ได้ยาวสุด ประมาณ 18–24 เดือน เนื้อไหมยืดหยุ่นสูง เหมาะกับคนที่อยากให้ผลลัพธ์คงทนนาน ๆ

บทความแนะนำ : ร้อยไหมมีกี่แบบ ? เจาะลึกทุกชนิดไหม พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับคุณ

เทคนิคการร้อยและความชำนาญแพทย์

นอกจากชนิดของเส้นไหมแล้ว สิ่งที่กำหนดว่า ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม คือเทคนิคและความชำนาญในการทำงานของแพทย์ การร้อยไหมไม่ใช่แค่การใส่เส้นเข้าไปใต้ผิว แต่ต้องอาศัยความเข้าใจโครงสร้างใบหน้า (Facial anatomy) การเลือกทิศทางร้อยไหม และความลึกที่เหมาะสม ถ้าทำถูกชั้นผิวและวางเส้นไหมได้ถูกจุด การยกกระชับจะมั่นคงกว่า และผลลัพธ์อยู่ได้ยาวขึ้น

เทคนิคที่ดีช่วยลดโอกาสที่ไหมจะเคลื่อนหรือเกิดรอยนูนหลังทำได้ด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนกังวล สุดท้ายแล้วต่อให้ใช้ไหมคุณภาพสูง แต่ถ้าขาดทักษะในการวางไหม ผลลัพธ์ก็อาจอยู่ได้ไม่นาน ที่ TBL Clinic เรามีแพทย์เฉพาะทางที่ผ่านการอบรมด้านการร้อยไหมโดยตรง จึงมั่นใจได้ว่าการวางเส้นไหมจะถูกออกแบบให้เหมาะกับโครงหน้าแต่ละคน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและยาวนานครับ

อายุและสภาพผิวของแต่ละคน

อีกปัจจัยที่มีผลต่อการ ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม คืออายุและสภาพผิวของแต่ละคน ผิวที่ยังมีคอลลาเจนและอีลาสตินหนาแน่น เช่น วัย 25–35 ปี จะตอบสนองได้ดี ผลการยกกระชับมักอยู่ได้นานกว่า เพราะร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนใหม่มาซัพพอร์ตเส้นไหมได้เต็มที่

ในทางกลับกัน คนที่อายุ 40 ปีขึ้นไปหรือมีผิวบางจากการเสื่อมของโครงสร้างผิว ผลลัพธ์อาจอยู่ได้สั้นลงเล็กน้อย แต่ก็ยังเห็นความต่างที่ชัดเจน เพียงแค่ต้องอาศัยการเสริมด้วยทรีตเมนต์อื่น เช่น Skin booster, HIFU หรือเลเซอร์กระตุ้นคอลลาเจน เพื่อช่วยยืดอายุผลลัพธ์ให้นานขึ้น ดังนั้น อายุไม่ใช่ข้อห้าม แต่เป็นตัวแปร ที่หมอจะใช้ในการออกแบบการรักษา เพื่อให้การร้อยไหมเหมาะสมกับสภาพผิวจริง ๆ ของแต่ละคนครับ

ร้อยไหมกี่วันเห็นผล และผลชัดเจนอยู่ได้นานแค่ไหน ?

หนึ่งในคำถามที่คนทำร้อยไหมถามหมอบ่อยที่สุดคือ ทำแล้วเห็นผลทันทีหรือเปล่า ความจริงคือการร้อยไหมสามารถเห็นการยกกระชับได้เลยหลังทำ แต่ผิวต้องใช้เวลาในการปรับตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ จึงค่อยๆ เห็นผลชัดขึ้นตามลำดับ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถแบ่งเป็นช่วงเวลาได้ชัดเจน เพื่อให้เข้าใจง่ายว่าหลังทำแต่ละระยะจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ช่วงเวลา การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ คำอธิบายเพิ่มเติม
ทันทีหลังทำ ใบหน้าดูตึงขึ้น กระชับขึ้นทันที อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือผิวขาวซีดจากยาชา อาการเหล่านี้มักหายภายใน 4–6 ชั่วโมง
2–3 วันแรก ยังมีอาการบวมตึงใต้ผิว และอาจเห็นรอยดึงจากเส้นไหม เกิดจากเงี่ยงไหมที่ยึดเกาะผิว เป็นช่วงที่รู้สึกระบมและตึงที่สุด
1–2 สัปดาห์ ใบหน้าเริ่มเข้ารูป อาการตึงและบวมหายไปเกือบหมด รอยริ้วจากการดึงไหมค่อย ๆ เรียบขึ้น ผิวดูเนียนขึ้นอย่างชัดเจน
4–6 สัปดาห์ ผลลัพธ์ชัดเต็มที่ ใบหน้าเข้าที่เป็นธรรมชาติ คอลลาเจนใหม่ถูกกระตุ้น ใบหน้าดูเฟิร์มและกระชับขึ้น ไม่มีบวมตกค้าง
ระยะยาว 6–18 เดือน ผลการยกกระชับยังคงอยู่ ระยะเวลาขึ้นกับชนิดไหม (PDO, PLLA, PCL) และการดูแลผิวหลังทำ

ผลลัพธ์จากการร้อยไหมจะเห็นทันทีหลังทำ แต่ช่วงที่เข้าที่และดูเป็นธรรมชาติที่สุดคือ ประมาณ 4–6 สัปดาห์ หลังจากนั้นผลจะคงอยู่ได้นาน 6–18 เดือน ขึ้นกับชนิดของไหมและการดูแลผิวแต่ละคนครับ

ร้อยไหมแต่ละชนิด อยู่ได้นานเท่าไร

การร้อยไหมมีหลายประเภท และแต่ละแบบก็ให้ผลลัพธ์แตกต่างกันไปทั้งในแง่ความชัดเจนและระยะเวลาที่อยู่ได้จริง มาดูกันว่าชนิดไหนเหมาะกับใคร และอยู่ได้นานแค่ไหนครับ

  • ไหม Mono (ไหมเส้นเดี่ยว) ไหมเรียบ ไม่มีเงี่ยง ใช้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนมากกว่ายกผิว เหมาะกับคนที่อยากให้ผิวดูตึงกระชับเล็กน้อย ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6–8 เดือน
  • ไหม Cog หรือไหมก้างปลา
    มีเงี่ยงเล็ก ๆ คล้ายก้างปลา ช่วยเกี่ยวดึงผิวให้ยกขึ้นได้ดี ผลชัดเจนกว่าไหมเส้นเรียบ อยู่ได้ราว 8–12 เดือน
  • ไหม Screw / Tornado (ไหมเกลียว) เส้นไหมบิดเกลียว ทำหน้าที่พยุงผิวและเติมวอลลุ่มบางส่วน เช่น ร่องแก้มหรือแนวกรอบหน้า อยู่ได้เฉลี่ย 10–12 เดือน
  • ไหม Double Screw (ไหมเกลียวคู่) ใช้เส้นไหมสองเส้นพันเข้าด้วยกัน ทำให้แรงพยุงและการยกกระชับดีกว่าแบบเกลียวเดี่ยว อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
  • ไหม Barb 360° / 4D / 6D เงี่ยงรอบทิศทาง ช่วยยึดเกาะเนื้อเยื่อได้แข็งแรง ผลลัพธ์แน่นและชัด อยู่ได้ราว 12–18 เดือน
  • ไหม Mint ไหมเกรดพรีเมียมจากเกาหลี มีหลายรุ่น เช่น Mint Lift, Mint Fine, Mint Fix Mini จุดเด่นคือแรงยกสูงและผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ อยู่ได้ประมาณ 12–18 เดือน
  • ไหม Tesslift (ไหมโครงตาข่าย) มีโครงสร้างเป็นตาข่ายถักรอบเส้นไหม ทำให้พยุงผิวได้มั่นคงกว่าแบบอื่น อยู่ได้ 18–24 เดือน เหมาะกับคนที่ต้องการผลนานและยกเยอะ
  • ไหม Rose ออกแบบให้มีเงี่ยงคล้ายกลีบกุหลาบ ช่วยเกี่ยวผิวให้ยกได้ดี เหมาะกับการปรับกรอบหน้า อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
  • ไหม Diamond / Screw Rose โครงสร้างพิเศษ เพิ่มแรงพยุงและแรงยกสูง เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก อยู่ได้ประมาณ 12–18 เดือน

ร้อยไหม ต้องทำกี่ปีครั้งถึงจะเห็นผลต่อเนื่อง

หลายคนที่ทำร้อยไหมแล้วชอบผลลัพธ์ มักถามต่อทันทีว่า แล้วต้องทำซ้ำบ่อยแค่ไหนถึงจะอยู่สวยต่อเนื่อง จริงๆ ระยะเวลาไม่ได้ตายตัว ขึ้นกับชนิดไหมและสภาพผิวของแต่ละคน ถ้าเป็น PDO ก็มักอยู่ได้ราวครึ่งปีถึง 8 เดือน ส่วนไหมที่โครงสร้างแน่นกว่าอย่าง PLLA หรือ PCL จะอยู่ได้ยาวถึง 1–2 ปี การทำซ้ำจึงเว้นช่วงต่างกันไป และในบางเคสหมอจะแนะนำให้ปรับแผนร่วมกับหัตถการอื่น เช่น ฟิลเลอร์ HIFU หรือ Ulthera เพื่อเสริมความกระชับและยืดอายุผลลัพธ์ให้ปังแบบยาวๆ ครับ

ทำซ้ำทุก 1 ปี กรณี ร้อยไหม PDO

สำหรับใครที่เลือกทำ ร้อยไหม PDO ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้จะเฉลี่ยประมาณ 6–8 เดือน เพราะเส้นไหมชนิดนี้สลายตัวเร็วกว่าแบบอื่น จุดเด่นคือเห็นผลไว ยกกระชับทันใจ เหมาะกับคนที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ไม่ถึงขั้นต้องใช้ไหมที่แรงดึงสูงมาก

แต่เพื่อให้ผลลัพธ์สวยต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หมอจะแนะนำให้ทำซ้ำทุก 1 ปี หรือเร็วกว่านั้นหากผิวเริ่มคลายตัวตามธรรมชาติ ข้อดีคือทุกครั้งที่ร้อยไหม PDO เข้าไป จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นและกระชับขึ้นเรื่อย ๆ พูดง่าย ๆ เหมือนเป็นการบูสต์ผิวแบบต่อเนื่อง ใครที่อยากคงความสดใสและกรอบหน้าชัดอยู่เสมอ การวางแผนทำ PDO ปีละครั้งถือว่าคุ้มครับ

ทำซ้ำทุก 1.5–2 ปี กรณี ร้อยไหม PCL/PLLA

สำหรับการทำ ร้อยไหม PCL หรือ ร้อยไหม PLLA จะได้ผลลัพธ์ที่อยู่นานกว่า PDO อย่างชัดเจน โดยทั่วไปเส้นไหมกลุ่มนี้คงตัวเฉลี่ย 12–24 เดือน เพราะโครงสร้างไหมมีความหนาแน่นและยืดหยุ่นมากกว่า อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ต่อเนื่อง ทำให้ผิวกระชับอยู่ยาวนานขึ้น

ดังนั้นคนที่เลือก PCL หรือ PLLA ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำบ่อยเหมือน PDO แต่จะวางแผนทำใหม่ทุก 1.5–2 ปี เพื่อคงความกระชับให้ต่อเนื่อง และถ้าใครดูแลผิวดี พักผ่อนเพียงพอ ผลอาจยืดได้ยาวใกล้ 2 ปีเต็ม เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนที่อยากลงทุนครั้งเดียวแล้วเห็นผลยาว ๆ โดยไม่ต้องกลับมาทำบ่อยครับ

ปรับแผนร่วมกับหัตถการอื่น อย่าง ฟิลเลอร์ HIFU Ulthera

การร้อยไหมถ้าทำร่วมกับหัตถการอื่น จะช่วยเสริมผลลัพธ์และทำให้ผิวกระชับอยู่ได้นานขึ้น โดยหมอมักจะแนะนำตามเคสจริง ดังนี้

  • ฟิลเลอร์ (Filler) → เติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือคาง ให้ใบหน้าสมดุลมากขึ้น
  • HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) → ใช้พลังงานอัลตราซาวด์กระตุ้นชั้น SMAS ให้ยกกระชับ เพิ่มความเฟิร์มโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • Ulthera → เทคโนโลยีที่ส่งพลังงานลงลึกและแม่นยำ ช่วยยกแน่นกว่า HIFU เหมาะกับคนที่อยากได้ผลคงทนและชัดเจน

การทำแบบคอมโบนี้เหมือน จัดแพ็กเสริม ที่ช่วยให้ผลการร้อยไหมไม่เพียงแค่ชัดขึ้น แต่ยังอยู่ได้นานขึ้นด้วยครับ

หากคุณกำลังคิดจะร้อยไหมและอยากได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนทำร่วมกับฟิลเลอร์ HIFU หรือ Ulthera ดูครับ เพราะการออกแบบการรักษาให้เหมาะกับใบหน้าและผิวของแต่ละคน จะช่วยให้ผลอยู่ได้นานขึ้นและดูเป็นธรรมชาติที่สุด นัดหมายปรึกษาที่  Line Official หรือ Inbox Facebook  TBL Clinic วันนี้ เพื่อให้หมอช่วยวางแผนที่ใช่สำหรับคุณครับ

การดูแลหลังทำให้ร้อยไหม อยู่ได้นานขึ้น

หลังการร้อยไหม สิ่งสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนทำคือการดูแลตัวเอง เพราะการดูแลที่ถูกต้องจะช่วยยืดผลลัพธ์และทำให้ ร้อยไหม อยู่ได้นานขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ หมอสรุปเป็นข้อ ๆ ไว้ดังนี้ครับ

  1. หลีกเลี่ยงการจับหรือกดบริเวณใบหน้า 48 ชั่วโมงแรกไม่ควรจับ กด นวด หรือขยับผิวแรง ๆ เพราะอาจทำให้เส้นไหมเคลื่อนและผลลัพธ์ไม่แน่น
  2. นอนหงาย และใช้หมอนหนุนศีรษะสูง เลี่ยงการนอนตะแคงหรือคว่ำในสัปดาห์แรก เพื่อไม่ให้แรงกดทำให้เส้นไหมเคลื่อนตำแหน่ง
  3. งดออกกำลังกายหนัก ๆ และกิจกรรมที่มีแรงสั่นสะเทือน อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์แรก ควรงดฟิตเนส วิ่ง หรือโยคะกลับหัว เพื่อให้ไหมยึดเกาะผิวได้มั่นคง
  4. ดูแลผิวด้วยอาหารและวิตามินที่ช่วยสร้างคอลลาเจน ทานโปรตีน วิตามินซี และคอลลาเจนเสริม เพื่อให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่มาพยุงเส้นไหม
  5. เลี่ยงความร้อนจัดและแสงแดดแรง งดซาวน่า เลเซอร์ หรือการตากแดดจัดในช่วงแรก เพราะอาจทำให้ไหมเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  6. มาตามนัดเพื่อตรวจติดตามกับแพทย์ เป็นขั้นตอนที่หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ สำคัญ เพราะหมอจะช่วยประเมินว่าไหมยังอยู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง และผลลัพธ์ยังคงสวย

ร้อยไหม เหมาะกับใคร และไม่เหมาะกับใคร

ก่อนตัดสินใจทำร้อยไหม หลายคนมักอยากรู้ว่าตัวเองเข้าข่ายเหมาะหรือไม่ การรู้ข้อนี้ช่วยให้การรักษาได้ผลชัดและปลอดภัยมากขึ้นครับ

ร้อยไหม เหมาะกับใคร

  1. คนที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น มุมปาก ร่องแก้ม หรือกรอบหน้าเริ่มไม่ชัด
  2. คนวัย 25–45 ปี ที่ผิวยังสร้างคอลลาเจนได้ดี ผลการร้อยไหมจะอยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ
  3. คนที่อยากให้ใบหน้ากระชับขึ้นแบบไม่ต้องผ่าตัดใหญ่และไม่อยากพักฟื้นนาน
  4. คนที่ต้องการบูสต์ความมั่นใจแบบด่วน ๆ เห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ

ร้อยไหม ไม่เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยรุนแรงเกินไป อาจไม่ตอบโจทย์ ควรพิจารณาการผ่าตัดดึงหน้าแทน
  2. ผู้ที่มีโรคผิวหนังอักเสบติดเชื้อ หรือเป็นสิวอักเสบรุนแรง ควรรักษาให้หายก่อน
  3. ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรเลื่อนการทำออกไปเพื่อความปลอดภัย
  4. ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเลือดออกง่าย หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

บทสรุป ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม คุ้มค่ากับการทำหรือไม่ ?

เมื่อสรุปภาพรวมแล้ว การร้อยไหมสามารถอยู่ได้เฉลี่ย 6–18 เดือน ขึ้นกับชนิดไหม เทคนิคที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังทำ สำหรับคนที่ผิวเริ่มหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ถือว่าเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนทันที โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่และไม่ต้องพักฟื้นยาวนาน ถ้าดูในแง่ของความคุ้มค่า ต้องบอกว่าเหมาะกับคนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบทันใจและสามารถทำซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ได้ต่อเนื่อง ยิ่งเมื่อผสมผสานกับการดูแลผิวที่ดี ผลที่ได้จะยาวนานและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ที่สำคัญ การร้อยไหมไม่ใช่เพียงการยกกระชับผิวให้ตึงขึ้น แต่คือการ “ลงทุนในความมั่นใจ” ที่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นกับตัวเองทุกครั้งที่ส่องกระจก

ถ้าคุณอยากรู้ว่าการร้อยไหมเหมาะกับตัวเองแค่ไหน และจะช่วยให้ผลลัพธ์ตอบโจทย์ปัญหาผิวได้จริงหรือไม่ ลองนัดปรึกษากับคุณหมอที่ TBL Clinic ได้เลยครับ
ติดต่อสะดวกผ่าน 👉  Line Official หรือ Inbox Facebook 

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม

  1. ร้อยไหม อยู่ได้นานกี่วันเห็นผลจริง?
    หลังทำจะเห็นผลทันทีว่าผิวกระชับขึ้น แต่ผลชัดเจนสุดช่วง 4–6 สัปดาห์ และอยู่ได้เฉลี่ย 6–18 เดือน ขึ้นกับชนิดไหม
  2. ร้อยไหม PDO อยู่ได้นานไหม เทียบกับ PCL?
    ร้อยไหม PDO อยู่ได้ประมาณ 6–8 เดือน ส่วน ร้อยไหม PCL อยู่ได้ยาวถึง 18–24 เดือน และกระตุ้นคอลลาเจนได้ต่อเนื่องกว่า
  3. ร้อยไหม ต้องทำกี่ปีครั้งถึงจะเห็นผลต่อเนื่อง?
    โดยทั่วไป ร้อยไหม PDO ควรทำซ้ำทุกปี ส่วน PCL/PLLA เว้นได้ 1.5–2 ปี เพื่อคงผลลัพธ์ต่อเนื่อง
  4. ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม ถ้าอายุเกิน 40 ปี?
    อายุเกิน 40 ปีผิวมักสร้างคอลลาเจนน้อยลง ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลงเล็กน้อย แต่ยังช่วยยกกระชับและทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัยได้
  5. ร้อยไหม อยู่ได้สั้นกว่าที่คิด เกิดจากอะไร?
    สาเหตุอาจมาจากชนิดไหมที่ใช้ เทคนิคการร้อย หรือการดูแลตัวเองหลังทำ เช่น นอนตะแคง กดหน้า หรือออกกำลังหนักเกินไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Call Center : 095-291-6565

Facebook : TBL Clinic-ทู บีเลิฟ คลินิก

e-mail : [email protected]

LINE : @tblclinic