เลขที่ ฆสพ./สบส 1536/2568

TBL Clinic

ร้อยไหมยกกระชับหน้า แก้ผิวหย่อนคล้อย ให้หน้าเฟิร์มได้แบบไม่ต้องผ่าตัด หน้ายกแบบจึ้งๆ

ร้อยไหมยกกระชับหน้า

หัวข้อ

เมื่ออายุเริ่มเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาพร้อมกันแบบเลี่ยงไม่ได้ก็คือ ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยเฉพาะกรอบหน้า แก้ม และแนวคาง ที่เคยชัดกลับดูดรอปลงจนทำให้ใบหน้าดูไม่สดใสเหมือนเดิม หลายคนถึงกับกังวลว่าต้องผ่าตัดเท่านั้นถึงจะแก้ได้ บอกเลยว่า ไม่จำเป็น

ตอนนี้มีวิธีแก้ผิวคล้อยที่กำลังฮิตสุดๆ ในวงการความงาม นั่นก็คือ ร้อยไหมยกกระชับหน้า ที่ช่วยยกผิวให้เฟิร์มขึ้นแบบเรียลไทม์ ไม่ต้องพักฟื้นนาน และได้ผลลัพธ์ที่ดูละมุนเป็นธรรมชาติสุดๆ ใครที่เริ่มรู้สึกว่าหน้าตัวเองไม่เฟิร์มเหมือนก่อน ลองมาตามหมอในบทความนี้กัน เพราะหมอจะพาไปไขทุกข้อสงสัย ตั้งแต่ร้อยไหมคืออะไร เจ็บไหม ผลอยู่ได้นานแค่ไหน ไปจนถึงเคล็ดลับยืดผลลัพธ์ให้ปังยาวๆ ไปเลย

ร้อยไหมยกกระชับหน้าคืออะไร? 

ร้อยไหมยกกระชับหน้า คือหัตถการที่ใช้ไหมละลายสอดเข้าไปในชั้นผิว (Subcutaneous Layer) เพื่อช่วยยกพยุงผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ผิวแน่น ฟู และกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไหมที่ใช้ เช่น PDO, PCL หรือ PLLA จะค่อยๆ ละลายไปเองภายใน 6–18 เดือน โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ข้อดีคือช่วยให้ใบหน้าดูเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นนาน หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ เห็นผลเริ่มชัดใน 1–2 สัปดาห์ และผลลัพธ์อยู่ได้ยาวหลายเดือน สำหรับใครที่อยากยกกระชับหน้าแบบทันใจ แต่ยังกลัวมีดหมอ ร้อยไหมคือทางเลือกที่ตอบโจทย์สุดๆ ในยุคนี้ เพราะสวยได้แบบ ปัง ฟื้นตัวไว และปลอดภัย ถ้าทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ

กระบวนการทำงานของเส้นไหม ช่วยยกหน้าได้อย่างไร ?

หลายคนสงสัยว่า เส้นไหมทำไมถึงช่วยยกหน้าได้? หมอจะอธิบายง่ายๆ แต่มีวิชาการนิดๆ ให้เข้าใจชัดนะครับ เวลาเราร้อยไหม แพทย์จะสอดไหมละลายเข้าไปในชั้นใต้ผิว (SMAS Layer) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ดึงเวลาทำ Facelift ตัวไหมจะมี เงี่ยง (Barb) หรือเกลียว (Spiral) ช่วยเกี่ยวและดึงพยุงผิวขึ้นในตำแหน่งที่ต้องการ ทำให้เห็นผลยกกระชับทันทีหลังทำ

นอกจากนี้ ไหมยังทำหน้าที่เป็น โครงสร้างชั่วคราว กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่รอบเส้นไหม กระบวนการนี้เรียกว่า Neo-Collagenesis ซึ่งช่วยให้ผิวแน่น ฟู และกระชับยาวนาน แม้ไหมจะละลายหมดแล้ว ผลลัพธ์ก็ยังอยู่ต่อเนื่องอีกหลายเดือน สรุปคือ เส้นไหมไม่ได้แค่ดึงหน้า แต่ยังรีสตาร์ทการสร้างคอลลาเจนให้ผิวสตรองขึ้นไปอีกขั้น

ไหมละลายที่ใช้ยกกระชับมีแบบไหนบ้าง ?

ปัจจุบัน ไหมละลายที่ใช้ยกกระชับหน้า มีหลายชนิด ซึ่งหมอจะเลือกให้เหมาะกับปัญหาผิวและผลลัพธ์ที่คนไข้ต้องการ มาดูกันว่าแต่ละแบบต่างกันยังไง

  1. PDO (Polydioxanone) – ไหมยอดฮิต ใช้กันมานาน ปลอดภัย ละลายได้เองในร่างกายภายใน 6–8 เดือน แต่ผลลัพธ์ยกกระชับจะอยู่ได้นานถึง 8–12 เดือน แถมกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำ
  2. PCL (Polycaprolactone) – เป็นไหมที่พรีเมียมขึ้น ละลายช้ากว่า PDO อยู่ได้ 12–18 เดือน ให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่า และช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวได้มากขึ้น
  3. PLLA (Poly-L-Lactic Acid) – ตัวนี้ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ละลายช้า และผลลัพธ์ยาวนานคล้าย PCL มักใช้กับผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูผิวระดับลึก

นอกจากนี้ยังมีไหมที่ออกแบบเป็น Mono, Cog หรือ Screw ซึ่งต่างกันที่รูปร่างและจุดประสงค์ เช่น Mono ช่วยฟื้นฟูผิว, Cog ช่วยยกพยุงแรง, Screw เพิ่มวอลุ่มจุดบุ๋ม สรุปง่ายๆ ไหมแต่ละแบบมีจุดเด่นของตัวเอง หมอจะเลือกใช้ แบบ Mix & Match ให้เข้ากับปัญหาของแต่ละคน เพื่อผลลัพธ์ที่ปังสุดครับ

ทำไมไหมถึงช่วยกระชับผิวได้ ?

หลายคนสงสัยว่า ทำไมแค่เส้นไหมเล็กๆ ถึงช่วยยกและกระชับผิวได้จริง? หมอจะเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ แต่มีหลักวิชาการรองรับนะครับ ตอนร้อยไหม แพทย์จะสอดไหมละลายเข้าไปใน ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ดึงเวลาทำ Face Lift เส้นไหมที่มี เงี่ยง (Barbs) จะทำหน้าที่เหมือนตะขอเล็กๆ ดึงและพยุงผิวให้ยกขึ้นในทันที

ไม่จบแค่นั้นนะ! ระหว่างที่ไหมอยู่ใต้ผิว มันจะกระตุ้น Fibroblast ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ๆ รอบเส้นไหม กระบวนการนี้ช่วยให้ผิวค่อยๆ แข็งแรง ตึงฟู และกระชับขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ไหมละลายหมดแล้ว โครงสร้างคอลลาเจนที่สร้างไว้ก็ยังคงพยุงผิวต่อได้อีกหลายเดือน สรุปง่ายๆ ไหมไม่ได้แค่ดึง แต่ยังซ่อมผิวจากภายใน ทำให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติและยาวนานครับ

บทความน่าสนใจ : ร้อยไหม คืออะไร ช่วยอะไรได้บ้าง? รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ผ่าตัด

ร้อยไหมยกกระชับหน้า เหมาะกับใครบ้าง?

ร้อยไหมยกกระชับหน้า เป็นหัตถการที่ตอบโจทย์หลายกลุ่มคน ไม่ใช่แค่คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยรุนแรงเท่านั้นนะครับ

  1. คนที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย – ปานกลาง เหมาะกับคนอายุประมาณ 25–40 ปี ที่เริ่มสังเกตว่าผิวไม่เฟิร์มเหมือนเดิม โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง หรือแนวกรอบหน้า
  2. คนที่กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีแก้มย้อยเล็กๆ ร้อยไหมช่วยดึงยกผิวขึ้น ทำให้กรอบหน้าคมชัดและดูเรียวขึ้นแบบไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม
  3. คนที่ไม่อยากผ่าตัดดึงหน้า สำหรับสายกลัวมีดหมอ แต่อยากเห็นผลชัดเจน ร้อยไหมคือทางเลือกที่ปลอดภัย ฟื้นตัวไว และผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
  4. คนที่อยากกระตุ้นคอลลาเจนโดยไม่ต้องฉีดหลายจุด ไหมละลายจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ข้อดีของการร้อยไหมหน้า

การร้อยไหมหน้าไม่ใช่แค่ช่วยยกผิวให้ตึงขึ้น แต่ยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูละมุนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่อยากรีเฟรชหน้าแบบเจ็บน้อยแต่เห็นผลไว ข้อดีหลักๆ มีดังนี้ครับ

  • ยกกระชับทันทีหลังทำ ผิวส่วนที่หย่อนคล้อยจะถูกพยุงขึ้นทันที ทำให้กรอบหน้าชัดและดูเรียวขึ้น
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เจ็บน้อย ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • แก้ปัญหามุมปากตก ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ ร่องแก้ม ได้อย่างแม่นยำ
  • ลดการใช้ฟิลเลอร์ในบางเคส โดยเฉพาะคนที่ต้องการเพิ่มความเต็มบริเวณแก้มแบบธรรมชาติ
  • กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวแน่น อิ่มฟู ลดรูขุมขนกว้าง และหลุมสิวดูตื้นขึ้น
  • ไหมสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง และผ่านมาตรฐาน อย. ปลอดภัยแน่นอน

ร้อยไหมมีกี่ประเภท? แบบไหนเหมาะกับใบหน้าคุณที่สุด ?

การร้อยไหม ไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่มีหลายประเภทให้เลือก และแต่ละแบบเหมาะกับปัญหาผิวต่างกัน หมอจะสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่าแบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด

  1. ไหมเรียบ (Mono Thread) เป็นเส้นไหมเล็กๆ ไม่มีเงี่ยง ใช้สำหรับกระตุ้นคอลลาเจนทั่วใบหน้า เหมาะกับคนที่ผิวเริ่มอ่อนแรง อยากฟื้นฟูผิวให้ดูฟูและแน่นขึ้น แต่ไม่ได้เน้นยกแรง
  2. ไหมเงี่ยง (Cog Thread) มีเงี่ยงเล็กๆ ช่วยเกี่ยวชั้นผิวให้ยกขึ้นทันที เหมาะกับคนที่กรอบหน้าไม่ชัด แก้มหย่อน หรือมีเหนียงเล็กๆ
  3. ไหมเกลียว (Screw/Spiral Thread) พันเป็นเกลียว ช่วยเพิ่มวอลุ่มและยกกระชับได้ดี นิยมใช้ในจุดที่มีร่องลึก เช่น ร่องแก้ม
  4. ไหมพรีเมียม (PCL, PLLA) ละลายช้า กระตุ้นคอลลาเจนต่อเนื่อง เหมาะกับคนที่อยากได้ผลลัพธ์ยาวนานกว่าปกติ

ไหมที่ใช้ร้อยหน้า มีชนิดอะไรบ้าง? ต่างกันยังไง ?

ไหมที่ใช้ร้อยหน้า ในปัจจุบันมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละแบบให้ผลลัพธ์และอายุการใช้งานแตกต่างกัน หมอจะเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ ว่าแต่ละชนิดทำงานยังไง

  1. PDO (Polydioxanone) เป็นไหมละลายที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด ปลอดภัย กระตุ้นคอลลาเจนได้ดี ละลายหมดใน 6–8 เดือน แต่ผลยกกระชับยังอยู่ต่อได้ถึง 12 เดือน เหมาะกับคนที่เริ่มทำครั้งแรก
  2. PCL (Polycaprolactone) ตัวนี้ละลายช้ากว่า PDO อยู่ได้ 12–18 เดือน มีคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจนต่อเนื่อง ผิวจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ
  3. PLLA (Poly-L-Lactic Acid) จุดเด่นคือกระตุ้นคอลลาเจนได้ยาวนาน ให้ผิวฟูและแน่นขึ้นในระยะยาว มักใช้กับคนที่ต้องการผลลัพธ์ยาวกว่า 18 เดือน

นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบไหมในรูปแบบ Mono, Cog, Screw เพื่อใช้แก้ปัญหาเฉพาะจุด เช่น Mono ฟื้นฟูผิว Cog ยกแรง Screw เติมวอลุ่ม

ตำแหน่งไหนของใบหน้าบ้างที่สามารถร้อยไหมได้ ?

หลายคนคิดว่าการร้อยไหมทำได้แค่ยกแก้ม แต่จริงๆ แล้ว ร้อยไหมสามารถทำได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า เพื่อแก้ปัญหาหย่อนคล้อยหรือปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ หมอสรุปตำแหน่งยอดฮิตมาให้ครับ

  1. กรอบหน้า (Jawline) จุดนี้ทำบ่อยที่สุด ช่วยให้กรอบหน้าคมชัด แก้มย้อยหาย หน้าเรียวขึ้นแบบไม่ต้องผ่าตัด
  2. แก้ม (Cheeks) เหมาะกับคนที่มีแก้มตกหรือร่องแก้มชัด ร้อยไหมช่วยดึงให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น
  3. เหนียงและคาง (Chin & Double Chin) สำหรับคนที่มีเหนียงหรือคางไม่ชัด ไหมช่วยเก็บใต้คางให้เรียบเนียนขึ้น
  4. ขมับถึงหางตา (Temple & Lateral Eye Area) ช่วยยกมุมหางตาและหางคิ้วให้ดูเปิด หน้าไม่หมอง ดูเฟรชขึ้น
  5. มุมปาก (Marionette Lines) แก้ปัญหามุมปากตก ทำให้หน้าดูสดใส ไม่เศร้า

ร้อยไหมทั้งหน้า ต้องใช้กี่เส้นถึงจะเห็นผลปัง?

จำนวนเส้นไหมที่ใช้ร้อยทั้งหน้าไม่ได้ตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับ สภาพผิว ระดับความหย่อนคล้อย และผลลัพธ์ที่ต้องการ หมอจะเป็นคนประเมินให้เหมาะกับแต่ละเคส เพื่อให้ยกกระชับได้พอดีและดูธรรมชาติ โดยทั่วไป ร้อยไหม Mono (กระตุ้นคอลลาเจน) อาจใช้ตั้งแต่ 40–80 เส้น เพื่อให้ผิวแน่นฟูทั่วใบหน้า ส่วน ไหมเงี่ยง Cog (ยกแรง) จะใช้ประมาณ 4–12 เส้นต่อข้าง สำหรับยกแก้มและกรอบหน้าให้ชัด ส่วนเคสที่ต้องการยกเยอะหรือแก้หย่อนคล้อยมาก อาจต้องใช้มากกว่านั้นและเสริมไหมเกลียวหรือไหมพรีเมียมร่วมด้วย

สรุปง่ายๆ คือ ยิ่งปัญหาผิวมาก เส้นไหมก็ต้องมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้เยอะถึงจะดี เพราะคุณภาพไหมและเทคนิคหมอสำคัญกว่า ใครอยากได้ผลปังแบบไม่โป๊ะ ควรให้แพทย์วางแผนอย่างเหมาะสมกับใบหน้าของคุณครับ

ร้อยไหมหน้า กี่วันถึงจะเห็นผลจริง ?

หลายคนทำร้อยไหมแล้วถามหมอว่า “เมื่อไหร่หน้าจะตึงสวยแบบเต็มที่?” บอกเลยว่าผลไม่ได้มาปุ๊บปั๊บทันทีเหมือนฟิลเลอร์ แต่ก็ไม่ได้ช้าเกินรอ หลังร้อยไหม คุณจะเริ่มเห็นการยกกระชับเบื้องต้นตั้งแต่ วันแรก เพราะไหมเงี่ยงช่วยพยุงผิวขึ้นทันที แต่ในช่วง 7–14 วัน ผลลัพธ์จะชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อบวมเริ่มยุบ และผิวเริ่มเข้าที่ ช่วง 4–6 สัปดาห์ จะเห็นผิวแน่น ฟู เพราะไหมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่เต็มที่ และผลลัพธ์จะพีคสุดๆ ในช่วง 2–3 เดือน

ร้อยไหมหน้าอยู่ได้กี่เดือน? ผลลัพธ์ยาวนานแค่ไหน ?

ร้อยไหมหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน? คำถามนี้หมอเจอบ่อยมาก และคำตอบคือ ขึ้นอยู่กับชนิดไหมและสภาพผิวของแต่ละคนครับ สำหรับ ไหม PDO ซึ่งใช้กันทั่วไป ผลลัพธ์จะอยู่ประมาณ 8–12 เดือน ส่วนไหมพรีเมียมอย่าง PCL หรือ PLLA ละลายช้ากว่า ทำให้ผลยาวนานขึ้นได้ถึง 12–18 เดือน

นอกจากนี้ การดูแลตัวเองหลังทำก็มีผลเยอะมาก ถ้าปฏิบัติตามคำแนะนำ เช่น งดนวดหน้าแรง งดออกกำลังกายหนักช่วงแรก และดูแลผิวอย่างเหมาะสม ผลก็จะอยู่ยาวและสวยนานกว่าเดิม สรุปง่ายๆ ร้อยไหมไม่ได้อยู่ถาวร แต่ช่วยให้หน้าเฟิร์มแบบธรรมชาติได้หลายเดือน และยิ่งทำกับแพทย์ที่ชำนาญ ผลก็จะเนียนและคงทนนานขึ้นครับ

ร้อยไหม vs โบท็อกซ์ vs ฟิลเลอร์ vs HIFU vs Ulthera เลือกอะไรดี ?

ร้อยไหม โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ HIFU และ Ulthera ล้วนเป็นตัวช่วยยอดฮิตในสายยกกระชับ แต่ละอย่างทำงานต่างกันและเหมาะกับปัญหาคนละแบบ

  • ร้อยไหม ใช้ไหมละลายสอดเข้าไปใต้ผิว ช่วยยกกระชับกรอบหน้า ดึงแก้ม และกระตุ้นคอลลาเจน เห็นผลไว ฟื้นตัวเร็ว
  • โบท็อกซ์ ทำงานโดยคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย เหมาะกับริ้วรอยเล็กๆ หน้าผาก หางตา และลดกราม แต่ไม่ได้ยกกระชับผิวโดยตรง
  • ฟิลเลอร์ เติมสาร Hyaluronic Acid เพื่อเพิ่มวอลุ่มในจุดที่ยุบหรือร่องลึก เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ให้หน้าดูเต็มขึ้น ไม่ได้ดึงหน้า
  • HIFU ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปกระชับชั้น SMAS แบบไม่รุกล้ำ เหมาะกับคนที่ผิวเริ่มคล้อยเล็กน้อย
  • Ulthera เทคโนโลยีคล้าย HIFU แต่พลังงานเข้าลึกและแม่นยำกว่า ให้ผลยกกระชับที่ชัดเจนยาวนานกว่า

สรุป ถ้าอยาก ยกหน้าแรง+กระชับชัด เลือกร้อยไหม แต่ถ้าแค่อยาก ผิวแน่นเบาๆ HIFU/Ulthera ก็ตอบโจทย์ ส่วนริ้วรอยเลือกโบท็อกซ์ และถ้าหน้ายุบ เติมฟิลเลอร์ครับ

รีวิวร้อยไหมหน้า ผลลัพธ์จริงจากคนทำแล้วเป็นยังไง

#ภาพรีวิวหรือวิดิโอจากคลินิก

ข้อควรรู้และวิธีเตรียมตัวก่อนเข้าร้อยไหมหน้า

ข้อควรรู้ก่อนร้อยไหม

  • ร้อยไหมไม่ใช่การศัลยกรรมใหญ่ แต่ก็เป็นหัตถการที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • ไหมที่ใช้ต้องเป็นไหมละลายที่ผ่าน อย. ปลอดภัยต่อร่างกาย
  • ผลลัพธ์ไม่ได้อยู่ถาวร แต่อยู่ได้นานหลายเดือนและดูเป็นธรรมชาติ

วิธีเตรียมตัวก่อนทำ

  1. งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 3 วัน เพราะส่งผลต่อการฟื้นตัวของผิว
  2. งดยาละลายลิ่มเลือดและอาหารเสริมบางชนิด เช่น แอสไพริน วิตามินอี โอเมก้า 3 เพื่อลดรอยช้ำ
  3. พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมต่อการซ่อมแซมผิว
  4. แจ้งโรคประจำตัวหรือประวัติแพ้ยา ให้แพทย์ทราบก่อนทำทุกครั้ง

ข้อห้ามและการดูแลหลังร้อยไหมหน้าเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หลังร้อยไหมหน้า การดูแลตัวเองสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนทำเลยนะครับ เพราะจะช่วยให้ไหมเข้าที่เร็วขึ้น ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

ข้อห้ามหลังร้อยไหม

  • งดนวดหน้า กดแรง หรือขยับหน้าเกินจำเป็นในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
  • งดออกกำลังกายหนัก ว่ายน้ำ หรือเข้าซาวน่า เพราะความร้อนและแรงสั่นสะเทือนอาจทำให้ไหมคลายตัว
  • หลีกเลี่ยงนอนคว่ำหรือกดหน้ากับหมอนเพื่อลดแรงกดบนไหม

การดูแลเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  1. ประคบเย็น 48 ชั่วโมงแรก ลดบวมและช้ำ
  2. หลังจากนั้นสามารถประคบอุ่นเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  3. รับประทานอาหารที่มีโปรตีนและวิตามินซีสูง เพื่อช่วยซ่อมแซมผิว
  4. ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด และเข้าตรวจตามนัด

ร้อยไหมหน้าที่ไหนดี? วิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัยและคุ้มค่า

การทำ ร้อยไหม ถือเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นทันตา แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือการเลือกคลินิก เพราะผลลัพธ์และความปลอดภัยขึ้นอยู่กับสถานที่และทีมแพทย์ที่คุณเลือกแบบเต็มร้อย หากคุณกำลังเสิร์ชคำว่า ร้อยไหม ใกล้ฉัน สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจมีดังนี้ครับ

  • ตรวจสอบใบอนุญาต คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้อง และแพทย์ที่ทำหัตถการต้องมีใบประกอบวิชาชีพแพทย์จริง

  • ไหมต้องผ่าน อย.เลือกคลินิกที่ใช้เส้นไหมแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงระยะยาว

  • ดูรีวิวจริงเช็กรีวิวก่อน–หลังจากผู้ที่เคยทำจริง เพื่อประเมินผลลัพธ์ว่าตรงกับที่คุณคาดหวังหรือไม่ และหลีกเลี่ยงรีวิวปลอม

  • แพทย์เชี่ยวชาญร้อยไหมเป็นเทคนิคที่ต้องอาศัยประสบการณ์ เลือกแพทย์ที่มีเคสจริงและมีความเชี่ยวชาญด้านการยกกระชับโดยตรง

  • ราคาสมเหตุสมผลอย่าหลงเชื่อราคาถูกเกินจริง เพราะอาจเสี่ยงต่อการใช้ไหมคุณภาพต่ำ ควรเลือกที่คุ้มค่าและโปร่งใส

ถ้าคุณอยากมั่นใจว่าการทำ ร้อยไหม ของคุณปลอดภัย ใช้ไหมแท้ผ่าน อย. และอยู่ในการดูแลของแพทย์จริง แนะนำให้ปรึกษาที่ TBL Clinic คลินิกเสริมความงามติด BTS พระโขนง เดินออกมาจากทางออก 1 เพียง 100 เมตร พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและรีวิวแน่นจากลูกค้าจริง คลิกสอบถามผ่าน Line Official หรือ Inbox Facebook จองสิทธิ์ปรึกษาฟรีวันนี้

โปรโมชั่นราคาร้อยไหมหน้าที่ TBL Clinic

สรุปว่าร้อยไหมยกกระชับหน้า ยิ่งทำเร็ว ยิ่งเห็นผลไว!

สรุปง่ายๆ เลยครับ ถ้าคุณเริ่มสังเกตว่าผิวหน้าเริ่มคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีร่องแก้มลึกขึ้น อย่าปล่อยให้ปัญหาหนักกว่าเดิม เพราะยิ่งทำช้า การแก้ไขก็ยิ่งยากขึ้น ร้อยไหมยกกระชับหน้า เป็นหัตถการที่ตอบโจทย์คนที่อยากแก้ผิวหย่อนคล้อยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ด้วยไหมละลายที่ช่วยทั้งดึงยกผิวและกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก และยิ่งทำเร็ว ผลลัพธ์จะดูละมุนและธรรมชาติยิ่งกว่า ที่สำคัญ ไม่ต้องกลัวว่าจะเจ็บหรือต้องพักฟื้นนาน เพราะหลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แค่ดูแลตัวเองตามคำแนะนำหมอเท่านั้น สรุปชัดๆ ยิ่งเริ่มแก้เร็ว ผิวยิ่งฟื้นไว และผลลัพธ์ยิ่งปัง ใครที่กำลังลังเล ลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดู แล้วคุณจะรู้ว่าหน้าเฟิร์มขึ้นได้ง่ายกว่าที่คิดครับ

FAQ

  1. ร้อยไหมยกกระชับหน้าเจ็บไหม?
    ตอบ: รู้สึกตึงและจี๊ดเล็กน้อย แต่ทนได้ เพราะมีการใช้ยาชาช่วย
  2. ผลอยู่ได้นานแค่ไหน?
    ตอบ: โดยเฉลี่ย 8–12 เดือน ไหมพรีเมียมอยู่นานถึง 18 เดือน
  3. ทำซ้ำได้บ่อยไหม?
    ตอบ: แนะนำปีละครั้ง หรือเมื่อผิวเริ่มหย่อนอีก
  4. มีรอยเข็มหลังทำไหม?
    ตอบ: มีรอยเข็มเล็กๆ ซึ่งหายได้ในไม่กี่วัน
  5. ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนทำ?
    ตอบ: งดแอลกอฮอล์ ยาละลายลิ่มเลือด และพักผ่อนเพียงพอ

ถ้ายังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ ร้อยไหมยกกระชับหน้า หรืออยากให้หมอช่วยแนะนำเพิ่มเติม ทีมแพทย์ของ TBL Clinic พร้อมให้คำปรึกษาฟรีแบบจริงใจ ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับ

ทักมาคุยกันได้ที่ Line Official หรือ Inbox Facebook ได้เลย คุณหมอตอบเองครับ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Call Center : 095-291-6565

Facebook : TBL Clinic-ทู บีเลิฟ คลินิก

e-mail : [email protected]

LINE : @tblclinic