ไหมล็อค คืออะไร อันตรายหรือไม่ ทำตรงไหนได้บ้าง ข้อดี–ข้อเสียที่ควรรู้

หลายคนเริ่มรู้สึกว่าหน้าไม่กระชับเหมือนเดิม ทั้งที่ยังดูแลผิวสม่ำเสมอ แต่งหน้าแล้วเหมือนกรอบหน้าไม่ชัด แก้มเริ่มหย่อนลงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่อยากถึงขั้นศัลยกรรม เพราะกลัวบวม พักฟื้นนาน หรือดูไม่ธรรมชาติ จนได้รู้จักกับเทคนิคใหม่ที่กำลังเป็นกระแสในวงการแพทย์ความงามตอนนี้ นั่นคือไหมล็อค ทางเลือกของคนที่อยากยกกระชับแบบเห็นผลทันทีแต่ยังดูเป็นตัวเอง

ไหมล็อคคือไหมละลายชนิดพิเศษที่มีทั้งเงี่ยงและปมล็อค อยู่ในเส้นเดียวกัน ทำให้สามารถพยุงและล็อคผิวให้อยู่ในตำแหน่งใหม่ได้แน่นขึ้นโดยไม่ต้องดึงแรง พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่นขึ้นตามเวลา จึงช่วยยกผิวได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ต่างจากไหมก้างปลาที่อาศัยเพียงแรงเกี่ยวจากเงี่ยงไหม ทำให้ไหมล็อคให้ผลลัพธ์ที่แน่นกว่าและอยู่ตัวนานกว่า

เทคนิคนี้เหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับต้นถึงปานกลาง เช่น กรอบหน้าไม่ชัด แก้มห้อย หรือเหนียงเริ่มชัด เพราะช่วยให้หน้ายกกระชับได้โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน เห็นผลบางส่วนทันทีหลังทำ และเข้าที่เต็มที่ในช่วง 4–6 สัปดาห์ “ยกจริงแบบไม่ต้องดึงแรง เพราะไหมล็อคจะล็อคผิวไว้ในตำแหน่งที่ใช่

ทำความรู้จักไหมล็อค คืออะไร และกลไกการยกผิวทำงานอย่างไร ?

ไหมล็อคคือไหมละลายชนิดพิเศษที่ถูกออกแบบให้มีทั้งเงี่ยง และ ปมล็อคอยู่ในเส้นเดียว ทำหน้าที่ยึดผิวและล็อคชั้นเนื้อเยื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้แน่นกว่าไหมทั่วไป กลไกของไหมล็อคคือเมื่อฝังลงในชั้น SMAS (ชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิว) เงี่ยงจะช่วยยกผิวขึ้น ขณะที่ปมล็อคจะคงแรงดึงไว้ไม่ให้คลายตัว

ต่างจากไหมก้างปลาหรือไหมเรียบทั่วไปที่อาศัยแรงเกี่ยวของเงี่ยงเพียงอย่างเดียว ทำให้ไหมล็อคสามารถยกผิวได้ในหลายมิติ เหมาะกับการปรับกรอบหน้า ยกแก้ม หรือเหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัด นอกจากนี้ไหมละลายยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว ทำให้ผิวแน่นขึ้นและดูเฟิร์มขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำอย่างเป็นธรรมชาติ

โครงสร้างของไหมล็อค

ไหมล็อคมีโครงสร้างเฉพาะตัวต่างจากไหมทั่วไป โดยผลิตจากวัสดุ PDO (Polydioxanone) หรือ PCL (Polycaprolactone) ซึ่งเป็นไหมละลายที่ปลอดภัยต่อร่างกายและได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ศัลยกรรมผิวหนัง จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบให้มี เงี่ยง (Cogs) และ ปมล็อคสองทิศทาง (Bidirectional Knot System) อยู่ในเส้นเดียว

เงี่ยงจะช่วยเกี่ยวและยกผิวขึ้น ส่วนปมล็อคจะทำหน้าที่ “ล็อคแรงดึง” ไว้ในตำแหน่งเดิมโดยไม่คลายตัว ทำให้แรงยกคงที่และผิวยกได้นานขึ้น โครงสร้างสองชั้นนี้ช่วยให้ไหมล็อคยึดเกาะได้แน่นกว่าไหมก้างปลาทั่วไป เหมาะกับการยกแก้ม เหนียง และกรอบหน้าในเคสที่ต้องการผลยกชัดโดยยังคงความเป็นธรรมชาติ

วิธีทำงานของไหมล็อคในชั้นผิว

ไหมล็อคทำงานในสองกลไกหลักคือพยุง และ ฟื้นฟูเมื่อไหมถูกฝังลงในชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่ใช้ในศัลยกรรมยกหน้า เงี่ยงและปมล็อคของไหมจะช่วยเกี่ยวและพยุงเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้นทันที จากนั้นร่างกายจะเริ่มกระบวนการซ่อมแซมโดยสร้าง คอลลาเจนและอิลาสติน รอบแนวไหม เพื่อเสริมความแน่นของชั้นผิว ผลลัพธ์คือผิวดูเฟิร์มขึ้นเรื่อยๆ อย่างเป็นธรรมชาติแม้ไหมละลายไปแล้ว ทั้งยังช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความกระชับแบบไม่ต้องพักฟื้นนาน และเห็นผลชัดเจนในระยะ 1–3 เดือนหลังทำ

ร้อยไหมล็อก ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

การร้อยไหมล็อคสามารถทำได้หลายตำแหน่งบนใบหน้าและลำคอ ขึ้นอยู่กับปัญหาและระดับความหย่อนของผิวในแต่ละคน โดยไหมล็อคมีข้อดีคือ “แรงยกแน่นแต่ไม่ดึงแข็ง” จึงสามารถปรับใช้ได้อย่างยืดหยุ่น หมอสรุปตำแหน่งยอดนิยมที่นิยมทำกันดังนี้

• กรอบหน้า (Jawline Lift) ช่วยยกแนวกรามที่เริ่มหย่อนคล้อยให้กลับมาคมชัด ลดข้างแก้มและเหนียงได้อย่างเห็นผล
• แก้มส่วนกลาง (Mid-face) ยกเนื้อแก้มที่หย่อนลง ให้กลับเข้าตำแหน่งเดิม ทำให้ใบหน้าดูสดชื่นและอ่อนเยาว์ขึ้น
• มุมปากและร่องน้ำหมาก (Marionette Line) ลดความย้อยของมุมปากที่ทำให้ดูเศร้า พร้อมปรับองศาให้ดูยิ้มละมุนขึ้น
• แก้มล่างและเหนียง (Lower Face & Submental Area) เหมาะกับคนที่มีเหนียงหรือผิวใต้คางหย่อน ช่วยให้ลำคอดูเรียวยาวและได้กรอบหน้าชัดขึ้น
• ขมับถึงหางตา (Temporal Lift) ใช้เทคนิคยกแนวขมับเพื่อดึงหางตาและแก้มส่วนบนให้ยกขึ้นแบบไม่แข็ง

ร้อยไหมล็อคใช้กี่เส้นถึงเห็นผล ?

จำนวนไหมล็อคที่ใช้จะแตกต่างกันตาม ระดับความหย่อนของผิว และ พื้นที่ที่ต้องการยก โดยทั่วไปหมอจะใช้ประมาณ 4–8 เส้นต่อข้าง สำหรับผู้ที่ผิวหย่อนเล็กน้อยถึงปานกลาง หากต้องการยกกรอบหน้า เหนียง หรือขมับร่วมด้วย อาจเพิ่มเป็น 10–12 เส้นต่อข้าง เพื่อให้แรงยกครอบคลุมทุกจุดสำคัญ

ไหมล็อคมีแรงพยุงมากกว่าไหมก้างปลาทั่วไป จึงไม่จำเป็นต้องใช้จำนวนมากก็เห็นผลได้ชัด ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีบางส่วนหลังทำ และชัดเจนขึ้นในช่วง 4–6 สัปดาห์ ทั้งนี้แพทย์จะประเมินตามโครงหน้าและสภาพผิวของแต่ละคน เพื่อออกแบบแนวไหมให้ยกพอดี ดูธรรมชาติ ไม่ตึงแข็ง และอยู่ได้นานที่สุด

ข้อดี–ข้อเสียของไหมล็อค ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ

ไหมล็อคเป็นเทคนิคยกกระชับที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลัง เพราะให้ผลลัพธ์ยกชัดและดูเป็นธรรมชาติ แต่ก่อนตัดสินใจทำ ควรเข้าใจทั้งข้อดีและข้อจำกัดของเทคนิคนี้อย่างครบถ้วน หมอสรุปให้เข้าใจง่ายดังนี้

ข้อดีของไหมล็อค

• ยกผิวได้แรงและแน่นกว่าไหมทั่วไป เพราะมีทั้งเงี่ยงและปมล็อคในเส้นเดียว
• เห็นผลยกทันทีบางส่วนหลังทำ และชัดเต็มที่ในช่วง 4–6 สัปดาห์
• กระตุ้นคอลลาเจนรอบแนวไหม ทำให้ผิวแน่นและเรียบขึ้นเรื่อย ๆ
• เหมาะกับคนที่ผิวหย่อนระดับต้นถึงปานกลาง ไม่ต้องพักฟื้นนาน
• สามารถปรับแนวยกเฉพาะจุด เช่น กรอบหน้า เหนียง หรือแก้มล่างได้อย่างแม่นยำ
• ผลอยู่ได้เฉลี่ย 12–18 เดือน และไหมละลายไปเองอย่างปลอดภัย

ข้อเสียหรือข้อควรระวัง

• อาจมีอาการบวม ตึง หรือช้ำเล็กน้อยในช่วง 3–7 วันแรก
• หากร้อยไหมซ้ำถี่เกินไปในจุดเดิม อาจเกิดพังผืดหรือผิวหนาได้
• ต้องทำโดยแพทย์ที่เข้าใจโครงสร้างชั้นผิว เพราะแนววางไหมมีผลต่อแรงยกและความปลอดภัย

หลังร้อยไหมล็อคหน้าบวมนานกี่วัน ?

หลังร้อยไหมล็อคอาจมีอาการบวมเล็กน้อยประมาณ 3–7 วันแรก ซึ่งถือเป็นปฏิกิริยาปกติของผิวจากการฝังไหมและแรงยกของเงี่ยงกับปมล็อค โดยช่วง 1–2 วันแรกอาจรู้สึกตึงหรือจี๊ดเบา ๆ บริเวณแนวไหม หลังจากนั้นอาการจะค่อย ๆ ยุบลงและเข้าที่มากขึ้นภายในสัปดาห์แรก หมอแนะนำให้ประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก งดนวดหน้า ออกกำลังกายหนัก หรือแสดงสีหน้ามากเกินไปในช่วง 5–7 วัน เพื่อให้ไหมล็อคยึดผิวได้เต็มที่ หลังจากครบ 1 สัปดาห์ ส่วนใหญ่ผิวจะเริ่มดูเป็นธรรมชาติขึ้น และเห็นผลยกกระชับชัดเจนขึ้นในช่วง 3–4 สัปดาห์

ร้อยไหมล็อค กี่วันเห็นผล ?

หลังร้อยไหมล็อคจะเห็นผลยกกระชับ ได้ทันทีบางส่วนจากแรงพยุงของเงี่ยงและปมล็อคที่เกี่ยวชั้นผิวไว้ ซึ่งช่วยให้กรอบหน้าดูชัดขึ้นตั้งแต่วันแรก แต่ผลลัพธ์ที่เข้าที่จริงจะเริ่มเห็นชัดในช่วง 3–4 สัปดาห์ เพราะร่างกายเริ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่รอบเส้นไหม ช่วง เดือนที่ 2–3 ผิวจะเฟิร์มขึ้นและดูยกอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ถือเป็นจุดพีคของไหมล็อคที่คอลลาเจนทำงานเต็มประสิทธิภาพ ผลลัพธ์โดยรวมสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมและการดูแลผิวหลังทำด้วย

ร้อยไหมล็อค ราคาเท่าไร ?

ร้อยไหมล็อคมีราคาตั้งแต่ 15,000–45,000 บาทต่อเคส ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม (PDO หรือ PCL) จำนวนเส้น และบริเวณที่ทำ เช่น ยกแก้ม ยกกรอบหน้า หรือยกเหนียง โดยทั่วไปไหม PCL จะมีราคาสูงกว่า เพราะอยู่ได้นานและให้แรงยกมากกว่าไหม PDO 

เคสยกทั้งกรอบหน้าอาจใช้ประมาณ 8–12 เส้นต่อข้าง ซึ่งจะช่วยยกกระชับได้ทั่วใบหน้า ราคาจึงอาจเพิ่มตามจำนวนเส้นและเทคนิคการวางไหมของแพทย์ หมอแนะนำให้เลือกคลินิกที่ใช้ไหมแท้ ผ่าน อย. และเปิดขวดให้ดูจริง เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผลยกที่ปลอดภัยและอยู่ทนนานอย่างที่คาดหวัง

สรุปร้อยไหมล็อค ดีจริงไหม

ร้อยไหมล็อคถือว่าดีจริง สำหรับคนที่อยากยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เพราะไหมชนิดนี้ถูกออกแบบให้มีทั้งเงี่ยงและปมล็อคในเส้นเดียว จึงช่วยพยุงและยกผิวได้แน่นกว่าไหมทั่วไป อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนรอบแนวไหม ทำให้ผิวค่อย ๆ แน่นขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือดึงจนเกินไป

เหมาะกับคนที่เริ่มมีผิวหย่อนระดับต้นถึงปานกลาง เช่น แก้มห้อย กรอบหน้าเบลอ หรือเหนียงเริ่มชัด เห็นผลบางส่วนทันที และเข้าที่เต็มที่ในช่วง 1–2 เดือน โดยไม่ต้องพักฟื้นยาว หากทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ไหมแท้ ได้มาตรฐาน ก็สามารถยกหน้าได้จริง อยู่ได้นาน และปลอดภัยในระยะยาว ที่ TBL Clinic เราเลือกใช้เฉพาะ ไหมมิ้น (Mint Lift) ซึ่งเป็นไหมล็อคพรีเมียมจากเกาหลี ผ่านการรับรองจาก KFDA และ อย. ไทย มีจุดเด่นเรื่องแรงยกแน่น แต่ให้ความนุ่มเป็นธรรมชาติ ด้วยเงี่ยง 360° และเทคโนโลยีล็อคพิเศษที่ช่วยให้ผิวยกกระชับได้ชัดเจนและอยู่ทนนานกว่าไหมทั่วไป

บทความแนะนำ : ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด ร้อยไหมมีกี่แบบ เลือกยังไงให้ตอบโจทย์ผิวและความมั่นใจ

ทุกเคสหมอจะออกแบบแนวยกเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ดูสมดุลและเข้ากับโครงหน้าจริงของแต่ละคน
เพราะเราเชื่อว่า การยกหน้าไม่ควรแค่ตึง แต่ต้องตึงอย่างสวย และปลอดภัย ปรึกษาหมอที่ TBL Clinic ได้ที่  Line Official หรือ Inbox Facebook เพื่อวางแผนยกกระชับด้วยไหมมิ้นที่เหมาะกับคุณได้เลย

 FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ ไหมล็อค

1. ไหมล็อคอยู่ได้นานแค่ไหน
   โดยทั่วไปผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม (PDO หรือ PCL) และการดูแลผิวหลังทำ
2. ไหมล็อคต่างจากไหมก้างปลาอย่างไร
   ไหมล็อคมีทั้ง เงี่ยงและปมล็อคในเส้นเดียว จึงยกแน่นกว่าและอยู่ตัวนานกว่าไหมก้างปลาที่มีเพียงเงี่ยงเกี่ยวผิว
3. ร้อยไหมล็อคเจ็บไหม ต้องพักฟื้นกี่วัน
   เจ็บเพียงเล็กน้อยจากตอนฉีดยาชา หลังทำอาจบวมเล็กน้อย 3–5 วัน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
4. ทำไหมล็อคอันตรายหรือเปล่า
   ไม่อันตรายหากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ไหมแท้ ผ่าน อย. และเทคนิคการร้อยที่ถูกชั้นผิว
5. ร้อยไหมล็อคทำได้บ่อยไหม
   สามารถทำซ้ำได้ทุก 12–18 เดือน หรือเติมบางส่วนหลัง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์